
เมื่อพูดถึงฟิลเลอร์ หลายคนอาจนึกถึงการเติมเต็มร่องลึกหรือเพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้าเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีด้านความงามได้พัฒนาไปอีกขั้น HArmonyCa คือหนึ่งในนวัตกรรมที่ตอบโจทย์นี้ได้อย่างลงตัว ด้วยการรวมคุณสมบัติของ Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) เข้าด้วยกันในหนึ่งเดียว
HArmonyCa ไม่เพียงเติมเต็มผิวได้ในทันที แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวดูแน่นกระชับในระยะยาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด และกำลังมองหาวิธีฟื้นฟูผิวที่ให้ผลลัพธ์ต่อเนื่อง
HArmonyCa (อ่านว่า “ฮาร์โมนี-คา”) คือฟิลเลอร์รุ่นใหม่ในกลุ่ม Hybrid Filler ที่รวมคุณสมบัติของ 2 สารสำคัญ ได้แก่ Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) เข้าด้วยกันในหนึ่งเดียว เพื่อเติมเต็มและฟื้นฟูผิวได้พร้อมกันทั้งสองมิติ — ทั้ง เติมเต็มในทันที และ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนระยะยาว
HArmonyCa พัฒนาโดยบริษัท Allergan Aesthetics (บริษัทเดียวกับผู้ผลิต Botox และ Juvederm) โดยออกแบบมาเพื่อให้เนื้อฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดี เป็นธรรมชาติ และกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้อย่างต่อเนื่อง จึงตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
ในด้านกายภาพ HArmonyCa จะมีลักษณะเป็นเนื้อเจลสีขาวนวล ข้นกว่าฟิลเลอร์ทั่วไปเล็กน้อย ใช้ฉีดบริเวณที่ต้องการความยกกระชับหรือเติมเต็มริ้วรอยลึก โดยไม่เหมาะกับบริเวณผิวบางหรือจุดที่ต้องการความละเอียดสูง
ฟิลเลอร์ชนิดนี้ได้รับการรับรองความปลอดภัยในหลายประเทศ และเริ่มมีการใช้งานแพร่หลายในคลินิกความงามชั้นนำทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
HArmonyCa ทำงานผ่านกลไกผสมผสานระหว่าง Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทแตกต่างกัน ดังนี้:
HA เป็นสารที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี ช่วยเติมเต็มร่องลึกหรือบริเวณที่ขาดปริมาตรทันทีหลังฉีด โดยเนื้อเจลจะช่วยยกผิวและปรับโครงสร้างให้ดูอิ่มฟูขึ้นทันตา
CaHA เป็นสารประกอบแร่ที่พบตามธรรมชาติในร่างกาย เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวจะไม่เพียงทำหน้าที่เป็นตัวเติมเต็มชั่วคราว แต่ยังช่วยกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ (Fibroblasts) ให้สร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์คือผิวที่ค่อย ๆ กระชับแน่นขึ้นในช่วง 2–3 เดือนหลังฉีด และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานหลายเดือน
HArmonyCa เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของผิวหย่อนคล้อยหรือสูญเสียปริมาตรบางส่วนของใบหน้า แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องยกกระชับด้วยวิธีผ่าตัด โดยเฉพาะในช่วงอายุ 30–50 ปี ซึ่งเป็นวัยที่การสร้างคอลลาเจนในผิวลดลงอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มที่เหมาะกับการฉีด HArmonyCa ได้แก่:
อย่างไรก็ตาม HArmonyCa ไม่เหมาะกับผู้ที่ผิวบางมาก หรือมีปัญหาเนื้อผิวน้อย เช่น บริเวณใต้ตา ร่องแก้มลึกใกล้ปาก หรือริมฝีปาก เนื่องจากเนื้อฟิลเลอร์มีความข้นและเด่นชัด อาจทำให้เห็นเป็นก้อนหรือผิวไม่เรียบเนียนได้
การประเมินว่า HArmonyCa เหมาะสมกับใบหน้าหรือไม่ ควรได้รับการวิเคราะห์จากแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบโครงหน้าโดยตรง
HArmonyCa ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับบริเวณที่ต้องการทั้งการเติมเต็มและการยกกระชับในเวลาเดียวกัน โดยจุดที่นิยมฉีดและได้รับการแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่:
บริเวณขมับมักเกิดการยุบตัวเมื่ออายุมากขึ้น การฉีด HArmonyCa ช่วยเติมเต็มให้ใบหน้าดูสมดุลและอ่อนเยาว์ขึ้น พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นลึก
บริเวณนี้เหมาะกับการใช้ HArmonyCa เพื่อยกผิวบริเวณกลางหน้าและช่วยให้ใบหน้าดูยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด
เมื่อใช้ในแนวกรอบหน้า HArmonyCa ช่วยเสริมโครงหน้าให้ชัดขึ้น และช่วยลดความหย่อนคล้อยบริเวณกรามได้อย่างเป็นธรรมชาติ
สามารถช่วยพยุงผิวในบริเวณที่เริ่มเกิดร่องลึกหรือหย่อนคล้อย โดยไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งหรือหนา
คำแนะนำ: ไม่ควรใช้ HArmonyCa บริเวณที่ผิวบางมาก เช่น ใต้ตา ริมฝีปาก หรือจุดที่ต้องการความละเอียดสูง
แพทย์ควรเป็นผู้ประเมินตำแหน่งการฉีดอย่างละเอียด โดยอิงจากโครงสร้างใบหน้า สภาพผิว และเป้าหมายของผู้รับบริการแต่ละราย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย
ผู้ชายสามารถฉีด HArmonyCa ได้เช่นเดียวกับผู้หญิง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าให้ดูชัดเจนขึ้นแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหวานหรือเปลี่ยนรูปหน้าไปจากเดิม ซึ่งเป็นความต้องการเฉพาะของผู้ชายส่วนใหญ่
การฉีด HArmonyCa ในผู้ชายควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบใบหน้าชายโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมทั้งในแง่ความงามและความเป็นธรรมชาติ
HArmonyCa เป็นฟิลเลอร์ชนิดหนึ่งที่ให้ผลลัพธ์แบบ ค่อยเป็นค่อยไป และ อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป เนื่องจากมีการทำงานทั้งแบบเติมเต็มทันที (HA) และกระตุ้นคอลลาเจนระยะยาว (CaHA)
จากการศึกษาทางคลินิก ผลลัพธ์ของ HArmonyCa โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้นานประมาณ 12–18 เดือน ขึ้นกับ:
แม้จะเห็นผลได้นาน แต่การติดตามผลกับแพทย์ทุก 6–12 เดือน ก็ช่วยให้ผลลัพธ์คงความสวยต่อเนื่องและปรับตามการเปลี่ยนแปลงของผิวในแต่ละช่วงวัยได้อย่างเหมาะสม
HArmonyCa มีความแตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปที่ใช้ Hyaluronic Acid (HA) เพียงอย่างเดียว ทั้งในด้านโครงสร้างสารประกอบ กลไกการทำงาน และผลลัพธ์ที่ได้ โดยมีจุดเด่นเฉพาะที่ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและกระตุ้นการฟื้นฟูผิวในระดับลึก
| คุณสมบัติ | HArmonyCa (HA + CaHA) | ฟิลเลอร์ทั่วไป (HA) |
|---|---|---|
| กลไกหลัก | เติมเต็ม + กระตุ้นคอลลาเจน | เติมเต็มเพียงอย่างเดียว |
| จุดเด่น | ยกกระชับ + ผิวแน่นขึ้นในระยะยาว | เติมเต็มผิวได้ละเอียดเป็นธรรมชาติ |
| ระยะเวลาผลลัพธ์ | 12–18 เดือน | 6–12 เดือน |
| ความหนาแน่นของเนื้อเจล | ข้นกว่าฟิลเลอร์ทั่วไปเล็กน้อย | หลากหลายระดับ (ขึ้นกับยี่ห้อ) |
| บริเวณที่เหมาะสำหรับฉีด | ขมับ, แก้มด้านข้าง, กรอบหน้า | ใต้ตา, ร่องแก้ม, ริมฝีปาก ฯลฯ |
| เหมาะกับผิวแบบใด | ผิวเริ่มหย่อนคล้อย, ต้องการยกกระชับ | ผิวบาง, ต้องการความละเอียดสูง |
สรุป: HArmonyCa ไม่ได้มาแทนที่ฟิลเลอร์ HA ทั้งหมด แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่มากกว่าการเติมเต็ม เช่น การยกกระชับและฟื้นฟูผิวในระยะยาว
แม้ HArmonyCa จะเป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองด้านความปลอดภัย แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน ควรพิจารณาข้อควรระวังต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด
HArmonyCa มีความข้นมากกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป จึง ไม่แนะนำให้ฉีดในจุดที่ผิวบางหรือเนื้อผิวน้อย เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก หรือร่องลึกใกล้ปาก เพราะอาจเกิดปัญหาเป็นก้อนหรือเห็นเป็นเส้นเจลได้
เทคนิคการฉีด HArmonyCa มีความเฉพาะตัว ต้องใช้ความเข้าใจลึกในโครงสร้างใบหน้า การประเมินชั้นผิว และการออกแบบแนวการฉีดเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นเลือดสำคัญหรือชั้นผิวที่ไม่เหมาะสม
ควรแจ้งแพทย์ถึงประวัติการรักษา ยาที่ใช้อยู่ และการแพ้ยาใด ๆ ก่อนเข้ารับบริการ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
การเตรียมตัวก่อนฉีดและการดูแลหลังทำหัตถการมีผลต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ของ HArmonyCa อย่างมาก การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
ควรเข้ารับการประเมินผลกับแพทย์ตามนัด เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงของผิวและพิจารณาการเติมในจุดที่ยังขาดได้อย่างแม่นยำ
HArmonyCa เจ็บไหมตอนฉีด?
– โดยทั่วไปจะรู้สึกเพียงเล็กน้อย เพราะแพทย์มักใช้ยาชาเฉพาะที่หรือผสมยาชาในตัวฟิลเลอร์เพื่อลดความรู้สึกเจ็บ
ฉีด HArmonyCa แล้วบวมกี่วัน?
– อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วง 1–3 วันแรก ซึ่งสามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการได้
สามารถฉีดซ้ำได้เมื่อไร?
– แนะนำให้เว้นระยะอย่างน้อย 12 เดือน หรือตามการประเมินผลโดยแพทย์
HArmonyCa ต่างจาก Sculptra หรือ Radiesse ยังไง?
– HArmonyCa มีทั้ง HA และ CaHA ในหนึ่งเดียว ให้ผลลัพธ์ทั้งเติมเต็มและกระตุ้นคอลลาเจนทันที ขณะที่ Sculptra และ Radiesse plus จะเน้นกระตุ้นคอลลาเจนเป็นหลักโดยไม่มีการเติมเต็มทันที
HArmonyCa เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของผิวหย่อนคล้อยหรือใบหน้าขาดความชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงวัย 30–50 ปี ที่ต้องการการฟื้นฟูผิวอย่างเป็นธรรมชาติและยั่งยืน ก่อนตัดสินใจรับบริการ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินความเหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าและเป้าหมายเฉพาะของแต่ละบุคคล และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีประสบการณ์ตรงด้าน HArmonyCa
ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง