โบท็อกซ์ปีกจมูก เป็นอีกหนึ่งหัตถการเล็ก ๆ ที่ช่วยปรับรูปจมูกให้ดูเรียวขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ปีกจมูกแผ่กว้างเวลาแสดงสีหน้า เช่น ยิ้มหรือหัวเราะ ด้วยเทคนิคการฉีดที่แม่นยำโดยแพทย์เฉพาะทาง สามารถลดแรงดึงของกล้ามเนื้อที่ทำให้ปีกจมูกบาน ทำให้ภาพรวมใบหน้าดูละมุนและสมส่วนขึ้น
บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจทุกแง่มุมของโบท็อกซ์ปีกจมูก ตั้งแต่ตำแหน่งการฉีด จำนวนยูนิต ยี่ห้อที่ใช้ วิธีดูแลตัวเอง ไปจนถึงคำถามที่หลายคนอยากรู้ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้คุณวางแผนได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยในทุกขั้นตอน
การฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูก (Nasal Alar Botox) คือเทคนิคที่แพทย์ใช้สาร Botulinum Toxin ฉีดเข้าไปยังกล้ามเนื้อบางมัดรอบปีกจมูก เช่น Dilator Naris และ Alar Nasalis เพื่อช่วยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัวลง จะส่งผลให้ปีกจมูกไม่แผ่กว้างเวลายิ้มหรือพูด ทำให้รูปจมูกดูเรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
การทำงานของโบท็อกซ์ที่จมูกแตกต่างจากการฉีดเพื่อริ้วรอยทั่วไป เนื่องจากเป้าหมายอยู่ที่การลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเฉพาะจุด ไม่ได้เน้นการเติมเต็มหรือยกกระชับ แต่ใช้เพื่อ “คลายแรง” ที่ทำให้ปีกจมูกแผ่ขยาย
แพทย์จะเลือกตำแหน่งฉีดอย่างแม่นยำ เพื่อไม่ให้กระทบกล้ามเนื้อใกล้เคียง เช่น Levator Labii Superioris ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยิ้มและการยกริมฝีปาก เพื่อคงความเป็นธรรมชาติของการแสดงสีหน้า
เทคนิคนี้มักใช้ร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์รัดแกนจมูกหรือจุดอื่น ๆ บริเวณใบหน้า เพื่อเสริมความสมดุลของรูปทรงจมูกในภาพรวม โดยเฉพาะในเคสที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือยังไม่พร้อมทำศัลยกรรมจมูก
การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดปีกจมูกนั้นเน้นกล้ามเนื้อเฉพาะจุดที่มีบทบาทในการขยายรูจมูก โดยเฉพาะสองมัดหลัก ได้แก่
กล้ามเนื้อมัดนี้อยู่ด้านข้างของจมูก มีหน้าที่หลักในการเปิดรูจมูกเวลาเราหายใจแรง หัวเราะ หรือยิ้ม หากกล้ามเนื้อมัดนี้ทำงานมากเกินไป จะทำให้ปีกจมูกดูบานออกเมื่อแสดงสีหน้า
กล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณฐานปีกจมูก ช่วยเสริมแรงในการดึงรูจมูกให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะเวลาพูดหรือหัวเราะ
แพทย์จะฉีดโบท็อกซ์ในตำแหน่งที่พิจารณาแล้วว่าเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของปีกจมูกโดยตรง โดยหลีกเลี่ยงไม่ให้สารแพร่กระจายไปโดนกล้ามเนื้อใกล้เคียงที่ไม่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันอาการยิ้มเบี้ยวหรือการเคลื่อนไหวผิดปกติของใบหน้า
การที่ปีกจมูกดูยุบลงภายหลังการฉีด ไม่ได้เกิดจากการลดเนื้อ หรือทำให้รูจมูกเล็กลงถาวร แต่เกิดจากการ ควบคุมแรงดึงของกล้ามเนื้อบางมัด ให้เคลื่อนไหวน้อยลง ส่งผลให้ใบหน้าดูสมส่วนขึ้นเวลายิ้ม
คำถามยอดฮิตสำหรับคนที่ไม่เคยฉีดมาก่อนคือ “เจ็บไหม?” การฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูกนั้นโดยทั่วไป ไม่เจ็บมาก เพราะใช้เข็มเล็กและฉีดในปริมาณน้อยมาก โดยใช้เทคนิคเฉพาะเจาะจงลงเฉพาะกล้ามเนื้อที่ต้องการเท่านั้น
ระดับความรู้สึกเจ็บขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่ในภาพรวมถือว่าเป็นหัตถการที่คนไข้ส่วนใหญ่รับได้ ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
จำนวนยูนิตที่ใช้ในการฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูกจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณปีกจมูก พฤติกรรมการเคลื่อนไหวใบหน้า และผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยทั่วไปแพทย์จะใช้ประมาณ:
ควรให้แพทย์ประเมินก่อนเสมอ เพราะการใช้โบท็อกซ์มากไปอาจเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น รอยช้ำหรือกล้ามเนื้อข้างเคียงอ่อนแรงโดยไม่จำเป็น
โบท็อกซ์ที่ใช้ฉีดบริเวณปีกจมูกจะต้องเป็นโบท็อกซ์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. (ประเทศไทย) หรือ FDA (ต่างประเทศ) และต้องใช้ในปริมาณที่แม่นยำตามคำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีความละเอียดอ่อนต่อการแสดงสีหน้า
ยี่ห้อ | จุดเด่น | ระยะเริ่มเห็นผล | อยู่ได้นาน | ความนิยมในไทย |
---|---|---|---|---|
Allergan (USA) | กระจายตัวแม่นยำ | 3–5 วัน | 4–6 เดือน | สูงมาก |
Dysport (UK) | กระจายตัวกว้างกว่า | 2–4 วัน | 3–4 เดือน | สูง |
Nabota (Korea) | เห็นผลไว ราคาย่อมเยา | 3–5 วัน | 3–5 เดือน | สูง |
Xeomin (Germany) | บริสุทธิ์สูง ไม่มีโปรตีนผสม | 4–7 วัน | 4–6 เดือน | ปานกลาง |
ขึ้นอยู่กับ:
ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมกับเคสของคุณโดยเฉพาะ
การฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูกให้ผลลัพธ์แบบชั่วคราว โดยกล้ามเนื้อที่ถูกคลายตัวจะเริ่มกลับมาใช้งานได้ตามปกติหลังระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งระยะเวลานั้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของโบท็อกซ์ ปริมาณที่ใช้ และพฤติกรรมของแต่ละคน
ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล แพทย์จะแนะนำระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการฉีดซ้ำในแต่ละเคส
โบท็อกซ์ปีกจมูกช่วยลดขนาดปีกจมูกได้ในลักษณะ “เมื่อมีการเคลื่อนไหว” เช่น ตอนยิ้มหรือพูด ผลลัพธ์ที่ได้คือปีกจมูก ดูไม่แผ่กว้าง ขณะออกแรงแสดงสีหน้า ซึ่งแตกต่างจากการศัลยกรรมที่ปรับโครงสร้างถาวร
ผลลัพธ์จะชัดแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความแรงของกล้ามเนื้อเดิม และเทคนิคการฉีดของแพทย์
การฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูกเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปจมูกให้ดูเรียวขึ้นแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยเฉพาะในกรณีที่ปีกจมูกแผ่ขยายเฉพาะเวลายิ้มหรือแสดงสีหน้า
การประเมินโดยแพทย์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อดูว่ากล้ามเนื้อที่ควบคุมปีกจมูกแข็งแรงพอจะตอบสนองต่อโบท็อกซ์หรือไม่
การฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูกใช้เวลาไม่นาน และหากทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญจะสามารถทำได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนดังนี้:
แพทย์จะให้คนไข้ยิ้ม/พูดเพื่อดูการเคลื่อนไหวของปีกจมูก ว่ามีกล้ามเนื้อส่วนใดทำงานมาก และควรฉีดตรงจุดใดบ้าง
จำนวนยูนิตที่ใช้และตำแหน่งการฉีดจะแตกต่างกันในแต่ละคน ขึ้นกับกล้ามเนื้อและโครงสร้างจมูก
เพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บ โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่เคยฉีดมาก่อน
แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็ก ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ Dilator Naris หรือ Alar Nasalis ด้วยเทคนิคที่แม่นยำ ใช้เวลาเพียง 5–10 นาที
แนะนำวิธีดูแลหลังทำ และนัดหมายติดตามผล (ถ้าจำเป็น)
หลังฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูก แม้จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้น แต่ก็มีข้อควรปฏิบัติบางประการที่ช่วยให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้เต็มที่และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง
การดูแลอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์อยู่ได้นานขึ้น และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
แม้โบท็อกซ์ปีกจมูกจะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนบางประการได้ โดยเฉพาะหากใช้ปริมาณไม่เหมาะสม หรือฉีดผิดตำแหน่ง
หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ หรือใช้สารไม่ได้มาตรฐาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้ จึงควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้อง และใช้โบท็อกซ์แท้เท่านั้น
การฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูกสามารถทำซ้ำได้เรื่อย ๆ หากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยมีการเว้นระยะอย่างเหมาะสม เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พักและลดความเสี่ยงของการดื้อโบท็อกซ์
การฉีดซ้ำเป็นเรื่องปกติในแผนการรักษา แต่ต้องอยู่ภายใต้การวางแผนที่ดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและต่อเนื่อง
ราคาของการฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูกจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ยี่ห้อที่ใช้ จำนวนยูนิต และคลินิกที่ให้บริการ โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงราคาที่จับต้องได้ โดยไม่ต้องใช้ยูนิตมากเหมือนบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้า
ยี่ห้อโบท็อกซ์ | ปริมาณยูนิต | ราคาประมาณ |
---|---|---|
Nabota (Korea) | 20–30 ยูนิต | 3,500–6,000 บาท |
Dysport (UK) | 20–40 ยูนิต | 5,000–9,000 บาท |
Allergan (USA) | 15–25 ยูนิต | 7,500–12,000 บาท |
Xeomin (Germany) | 15–20 ยูนิต | 6,000–10,000 บาท |
Neuronox (Korea) | 20–30 ยูนิต | 3,000–5,500 บาท |
Aestox (Korea) | 20–30 ยูนิต | 3,000–5,500 บาท |
แนะนำให้สอบถามราคาพร้อม “จำนวนยูนิตที่ได้” และตรวจสอบว่าเป็นโบท็อกซ์แท้มี อย. ก่อนตัดสินใจ
เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนและตอบข้อสงสัยที่หลายคนถามบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูก ด้านล่างคือคำถามพร้อมคำตอบสั้นกระชับ:
A: รู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยคล้ายจิ้มเบา ๆ บริเวณข้างจมูก และมักทายาชาหรือประคบเย็นก่อนฉีด
A: โดยทั่วไปใช้ 10–20 ยูนิตต่อข้าง หรือ 20–40 ยูนิตรวมสองข้าง ขึ้นกับกล้ามเนื้อและยี่ห้อ
A: ประมาณ 3–6 เดือน แล้วแต่แบรนด์และพฤติกรรมการใช้กล้ามเนื้อ
A: ไม่ถาวร หากหยุดฉีด กล้ามเนื้อจะกลับมาทำงานตามเดิม
A: ขึ้นอยู่กับความต้องการ หากต้องการรักษารูปจมูกที่ดูเรียวขณะยิ้ม ควรฉีดซ้ำทุก 4–6 เดือน
โบท็อกซ์ปีกจมูกเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปจมูกให้เรียวลงแบบไม่ถาวร เหมาะกับผู้ที่ปีกจมูกบานเฉพาะเวลายิ้มหรือพูด และยังไม่พร้อมทำศัลยกรรม โดยหากฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่โป๊ะ และใช้ชีวิตได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้โบท็อกซ์แท้ มีแพทย์ประเมินอย่างละเอียดก่อนฉีด ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพอใจในระยะยาว