HIFU vs RF เปรียบเทียบ 4 ยอดฮิต Ulthera Prime, Ultraformer III, Thermage, Oligio เลือกแบบไหนไม่ต้องเสียเงินลองผิดลองถูก

HIFU vs RF หลายๆ คนยังคงสงสัย ถ้าคุณอยากยกกระชับ ไม่ว่าจะเป็น หน้า เหนียง คอ ต้นแขน ต้นขา ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทย มีเทคโนโลยีที่คนพูดถึงบ่อยที่สุด 4 ตัว ได้แก่ Ulthera Prime, Ultraformer III, Oligio, หรือ Thermage แต่ยังลังเลว่าจะทำหัตถการไหนดี แต่ละวิธีมีจุดเด่นแตกต่างกันยังไง แล้วหัตถการไหนที่เหมาะกับคุณ

บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญที่คุณควรรู้เกี่ยวกับทั้ง 4 หัตถการนี้ พร้อมการเปรียบเทียบแบบละเอียด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ถูกต้องในการเลือกวิธีที่เหมาะกับผิวและความต้องการของคุณมากที่สุด โดยไม่ต้องเสียเงินและเวลาไปกับการลองผิดลองถูก

สารบัญ hide

HIFU vs RF เปรียบเทียบ Ulthera Prime, Ultraformer III, Thermage และ Oligio

หัตถการ พลังงานที่ใช้ ความลึกของชั้นผิว จุดเด่น เหมาะกับใคร?
Ulthera Prime Microfocused Ultrasound (MFU-V) SMAS (4.5 – 8.0 mm) เห็นชั้นผิวจริงผ่านหน้าจอ Real-Time Visualisation ยิงพลังงานได้แม่นยำขึ้น ลดความเสี่ยงจากพลังงานผิดจุด เจ็บน้อยกว่ารุ่นเก่า คนที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่นาน
Ultraformer III High-Intensity Focused Ultrasound (HIFU – MMFU) SMAS (1.5 – 9.0 mm) มีหัวหลายระดับ ยิงพลังงานแม่นยำกว่า HIFU ทั่วไป เหมาะกับทั้งใบหน้าและตัว คนที่ต้องการกระชับผิวโดยไม่เจ็บมาก และต้องการเห็นผลไว
Oligio Monopolar RF (MRF) Dermis (1.5 – 4.0 mm) เจ็บน้อยกว่าทุกตัว กระตุ้นคอลลาเจนแบบอ่อนโยน เหมาะกับผิวบาง คนที่ต้องการลดริ้วรอย กระชับผิวแบบไม่เจ็บ
Thermage Radiofrequency (RF) Dermis (1.5 – 3.0 mm) กระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอย ผิวแน่นฟูขึ้น คนที่ต้องการลดริ้วรอย และกระชับผิวในระยะยาว

หลักการทำงานของ HIFU vs RF ต่างกันยังไง

แม้ทั้ง 4 เทคโนโลยีจะมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ช่วยยกกระชับผิว แต่แตกต่างกันในเรื่องของ พลังงานที่ใช้ และระดับชั้นผิวที่เข้าถึง

  • Ulthera Prime (HIFU) – ใช้ Microfocused Ultrasound (MFU-V) พร้อม Real-Time Visualisation ยิงพลังงานลึกถึง SMAS (4.5-8 มม.) ให้พลังงานแม่นยำ จุดเล็กละเอียด ยกกระชับลึก คล้ายศัลยกรรมดึงหน้า
  • Ultraformer III (HIFU) – ใช้ Micro & Macro Focused Ultrasound (MMFU) พลังงานกระจายได้แม่นยำกว่า HIFU ทั่วไป สามารถเข้าถึงชั้น SMAS (1.5-9.0 มม.) และเหมาะกับการกระชับทั้งใบหน้าและลำตัว
  • Oligio – ใช้ Monopolar RF (MRF) ส่งพลังงานลงชั้น หนังแท้ (1.5-4.0 มม.) อย่างสม่ำเสมอ เจ็บน้อยกว่าทุกตัว เน้น ลดริ้วรอย ฟื้นฟูคอลลาเจน เหมาะกับผิวบอบบาง
  • Thermage – ใช้ Radiofrequency (RF) กระตุ้นคอลลาเจนใน ชั้นหนังแท้ (1.5-3.0 มม.) เด่นเรื่อง ลดริ้วรอย ฟื้นฟูผิวให้แน่นขึ้น แต่ไม่ได้เน้นยกกระชับลึกเท่า Ulthera Prime หรือ Ultraformer III

ระดับความเจ็บ และผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน

หัตถการ ระดับความเจ็บ (1-5) ผลลัพธ์เริ่มเห็นเมื่อไหร่? อยู่ได้นานแค่ไหน?
Thermage 🔥🔥🔥🔥 (4) ทันที 5-10% เห็นผลเต็มที่ 3-6 เดือน 12-24 เดือน
Ulthera Prime 🔥🔥🔥 (3) ทันที 10-20% เห็นผลเต็มที่ 2-3 เดือน 12-24 เดือน
Ultraformer III 🔥🔥 (2) ทันที 20-30% เห็นผลเต็มที่ 1-2 เดือน 6-12 เดือน
Oligio 🔥 (1) ทันที 5-10% เห็นผลเต็มที่ 2-6 เดือน 12-18 เดือน

HIFU vs RF เลือกทำอะไรดี?

  • เลือก Ulthera Prime ถ้า
    • มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก เช่น แก้มห้อย หนังตาตก
    • ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
  • เลือก Ultraformer III ถ้า
    • มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น กรอบหน้าเริ่มเบลอ
    • ต้องการกระชับผิวในราคาย่อมเยา และไม่อยากเจ็บมาก
    • ต้องการเห็นผลเร็ว และทำซ้ำทุก 6-12 เดือน
    • ต้องการกระชับทั้งใบหน้าและลำตัวในครั้งเดียว
  • เลือก Thermage ถ้า
    • ต้องการลดริ้วรอยให้ผิวดูเด็กขึ้น
    • อยากให้ผิวกระชับขึ้น แต่ไม่ต้องการยกหน้าแบบชัดเจน
    • ไม่อยากเจ็บมาก และต้องการผลลัพธ์ระยะยาว 12-24 เดือน
  • เลือก Oligio ถ้า
    • ต้องการให้ผิวแน่นขึ้นและลดริ้วรอย โดยไม่ต้องการเจ็บมาก
    • มีผิวบอบบาง เช่น รอบดวงตา หรือบริเวณที่ไม่ต้องการพลังงานสูง
    • ต้องการเห็นผลเร็ว และอยู่ได้นาน 12-18 เดือน
    • ต้องการฟื้นฟูคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวแบบอ่อนโยน

แต่ละหัตถการเหมาะกับการทำบริเวณไหนบ้าง

แต่ละเทคโนโลยีมีระดับความลึกและจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกบริเวณที่จะทำก็มีความสำคัญ มาดูกันว่าบริเวณไหนเหมาะกับ Ulthera Prime, Ultraformer III, Thermage และ Oligio กันบ้าง

Ulthera Prime เหมาะกับทำบริเวณไหน

  • ใบหน้าและกรอบหน้า – ยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย แก้มห้อย
  • คิ้วและหน้าผาก – ช่วยยกหางตา ทำให้ดูสดใสขึ้น
  • ใต้คางและเหนียง – ลดไขมันใต้คาง ทำให้กรอบหน้าชัด
  • ลำคอ – กระชับผิวที่คอ ลดคอเหี่ยว คอย่น
  • เนินอก (Décolletage) – ลดริ้วรอยที่หน้าอก ทำให้ผิวตึงขึ้น

ไม่แนะนำ: รอบดวงตาและเปลือกตาบน เนื่องจากพลังงานสูงและอาจระคายเคือง

Ultraformer III เหมาะกับทำบริเวณไหน

  • ใบหน้าและกรอบหน้า – ยกกระชับแบบเบาๆ สำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า
  • ใต้คางและเหนียง – ลดไขมันใต้คาง ทำให้หน้าดูเรียวขึ้น
  • หน้าผากและคิ้ว – ช่วยให้ตาดูสดใสขึ้น ยกคิ้วเล็กน้อย
  • ลำคอ – ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบริเวณคอ
  • ต้นแขน-ต้นขา – กระชับผิว ลดเซลลูไลท์

ไม่แนะนำ: บริเวณที่ผิวบางมาก เช่น รอบดวงตา และคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนมาก

Thermage เหมาะกับทำบริเวณไหน

  • ใบหน้าและกรอบหน้า – ลดริ้วรอย ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  • รอบดวงตาและเปลือกตา – ลดถุงใต้ตา กระชับหนังตาหย่อน
  • ลำคอ – ลดคอเหี่ยวย่น เพิ่มความตึงกระชับ
  • หน้าท้องหลังคลอด – ลดความหย่อนคล้อย ทำให้ผิวเรียบขึ้น
  • ต้นแขน ต้นขา และสะโพก – ลดเซลลูไลท์ ทำให้ผิวแน่นขึ้น

ไม่แนะนำ: คนที่มีไขมันใต้ผิวมาก เพราะ Thermage ไม่ได้ช่วยสลายไขมัน

Oligio เหมาะกับทำบริเวณไหน

  • ใบหน้าและกรอบหน้า – ลดริ้วรอย ทำให้ผิวกระชับแน่นขึ้น
  • รอบดวงตา – ลดถุงใต้ตา ลดริ้วรอยใต้ตา
  • ลำคอ – ลดความหย่อนคล้อย ทำให้ลำคอเรียบเนียนขึ้น
  • กรอบหน้าและใต้คาง – กระชับกรอบหน้า ลดคางสองชั้น
  • หน้าผาก – ลดริ้วรอยหน้าผาก ทำให้ผิวดูเนียนขึ้น
  • ต้นแขนและต้นขา – กระชับผิว ลดเซลลูไลท์

ไม่แนะนำ: คนที่ต้องการยกกระชับลึกถึง SMAS เพราะ Oligio เน้นกระชับชั้นหนังแท้ (Dermis) มากกว่า

ตารางสรุปแต่ละหัตถการเหมาะกับการทำบริเวณไหน?

บริเวณ Ulthera Prime Ultraformer III Thermage Oligio
ใบหน้า & กรอบหน้า ✅ ยกกระชับลึกสุด ✅ ยกกระชับเห็นผลไว ✅ ลดริ้วรอย ✅ กระชับผิว ลดริ้วรอย
คิ้ว & หน้าผาก ✅ ยกคิ้วขึ้น ✅ ยกคิ้วและหน้าผาก ❌ ไม่เหมาะ ✅ ลดริ้วรอยหน้าผาก
เหนียง & ใต้คาง ✅ ลดไขมัน+ยกกระชับ ✅ ลดเหนียง ✅ กระชับผิวใต้คาง ✅ กระชับผิวใต้คาง
ลำคอ ✅ ลดคอย่น ✅ ลดคอย่น กระชับขึ้น ✅ ทำให้ผิวเรียบขึ้น ✅ ลดรอยเหี่ยวย่น
รอบดวงตา ❌ ไม่เหมาะ ❌ ไม่เหมาะ ✅ ลดถุงใต้ตา ✅ ลดริ้วรอยรอบดวงตา
หน้าท้อง & ผิวตัว ❌ ไม่เหมาะ ✅ ลดไขมันบางส่วน & กระชับผิว ✅ กระชับผิวหลังคลอด ✅ กระชับผิว ลดเซลลูไลท์

ข้อแนะนำในการเลือกทำ

  • Ulthera Prime – เหมาะกับการ ยกกระชับจุดที่หย่อนคล้อยมากที่สุด เช่น ใบหน้า กรอบหน้า และลำคอ
  • Ultraformer III – เหมาะกับ การกระชับผิวแบบเบาๆ ลดเหนียง หรือใช้ปรับรูปหน้า โดยไม่ต้องการเจ็บมาก
  • Thermage – เหมาะกับ การลดริ้วรอยและฟื้นฟูคอลลาเจน เช่น รอบดวงตา ลำคอ และหน้าท้อง
  • Oligio – เหมาะกับ การกระชับผิว ลดริ้วรอย ฟื้นฟูความยืดหยุ่น โดยเน้นความอ่อนโยน เจ็บน้อย

หากเลือกให้เหมาะกับปัญหาผิว แล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

HIFU vs RF ควรทำบ่อยแค่ไหน? ทำซ้ำๆ ดีหรือไม่?

แต่ละหัตถการควรทำตามระยะเวลาที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่จำเป็นต้องทำบ่อยเกินไป เพราะการใช้พลังงานสูงกระตุ้นคอลลาเจนมากเกินไป อาจทำให้ผิวอ่อนล้าได้

หัตถการ ควรทำทุกกี่เดือน เหตุผล
Ulthera Prime ทุก 12-18 เดือน ให้ผลลัพธ์ยาวนาน ไม่จำเป็นต้องทำบ่อย
Ultraformer III ทุก 6-12 เดือน เห็นผลเร็ว แต่พลังงานสลายตัวไวกว่าการทำ Ulthera Prime จึงต้องทำบ่อยขึ้นเพื่อคงผลลัพธ์
Thermage ทุก 12-24 เดือน กระตุ้นคอลลาเจนแบบค่อยเป็นค่อยไป ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
Oligio ทุก 6-12 เดือน ให้ผลลัพธ์ที่ดีในการกระชับผิวและลดริ้วรอย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวแบบสม่ำเสมอ

การทำซ้ำในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ยาวนาน โดยไม่ทำร้ายโครงสร้างผิว

HIFU vs RF หัตถการไหนเห็นผลเร็วที่สุด?

Ultraformer III (เห็นผลเร็วที่สุด) (HIFU)

  • หลังทำเสร็จทันทีจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ประมาณ 20-30% โดยเฉพาะในเรื่องของความกระชับบริเวณกรอบหน้า
  • เห็นผลลัพธ์เต็มที่ชัดเจนที่สุดในระยะเวลาประมาณ 1-2 เดือน
  • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ไว และอยากปรับปรุงรูปหน้าอย่างเร่งด่วน

Ulthera Prime (เห็นผลเร็วรองลงมา) (HIFU)

  • หลังทำเสร็จทันทีจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ประมาณ 10-20% ของผลลัพธ์ทั้งหมด
  • ผลลัพธ์จะค่อยๆ ดีขึ้นชัดเจนที่สุดในช่วง 2-3 เดือนหลังทำ
  • จุดเด่นคือการยกกระชับที่ลึกกว่า จึงเห็นผลชัดเจนกว่าในระยะยาว แต่จะช้ากว่า Ultraformer III เล็กน้อย

Thermage (เห็นผลช้าที่สุด) (RF)

  • หลังทำเสร็จใหม่ๆ จะเห็นผลเพียงประมาณ 5-10% เท่านั้น เน้นไปที่ความกระชับเล็กน้อยและความตึงผิว
  • ผลลัพธ์จะค่อยๆ พัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ โดยจะเห็นผลชัดเจนที่สุดที่ประมาณ 3-6 เดือนหลังทำ
  • Thermage เด่นเรื่อง ลดริ้วรอยและกระตุ้นคอลลาเจน ผลลัพธ์คงทนนานแต่ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลชัดเจน

Oligio (เห็นผลปานกลาง) (RF)

  • หลังทำเสร็จจะเห็นผลประมาณ 5-10% โดยเน้นไปที่การกระชับผิวและลดริ้วรอย
  • ผลลัพธ์จะค่อยๆ ดีขึ้น โดยเห็นชัดที่สุดในช่วง 2-6 เดือน
  • เจ็บน้อยกว่า Thermage และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

หากต้องการ เห็นผลเร็วที่สุด Ultraformer III เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน Ulthera Prime หรือ Thermage อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและเป้าหมายที่ต้องการ

วิธีดูแลหลังทำ HIFU vs RF

  1. หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดดจัด
    • หลีกเลี่ยงแดดจัดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ และทาครีมกันแดด SPF 50+ PA++++ ทุกวัน
    • หลีกเลี่ยง ซาวน่า อบไอน้ำ หรือการใช้ไดร์เป่าผมร้อนใกล้หน้า เป็นเวลา 1-2 วัน
  2. หลีกเลี่ยงการถูหรือกดผิวแรงๆ
    • ผิวที่ทำการรักษาจะบอบบางในช่วงแรก ควรหลีกเลี่ยงการ ขัดหน้า สครับผิว หรือกดนวดหน้าแรงๆ
    • เวลาล้างหน้าควรใช้ ผลิตภัณฑ์อ่อนโยน และซับหน้าเบาๆ ด้วยผ้าขนหนูสะอาด
  3. บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นเสมอ
    • แนะนำให้ใช้ เซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มี Hyaluronic Acid หรือ Peptide เพื่อช่วยบำรุงลึก
  4. งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
    • แอลกอฮอล์และบุหรี่ทำให้คอลลาเจนเสื่อมเร็วขึ้น และอาจลดประสิทธิภาพของการทำ Ulthera Prime, Ultraformer III, Thermage และ Oligio
    • ควรงดหรือหลีกเลี่ยง อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังทำ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูผิวได้ดีขึ้น
  5. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิวแรงๆ
    • งดใช้ AHA, BHA, Retinol และ Vitamin C เข้มข้น อย่างน้อย 3-7 วันหลังทำ
    • ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นการบำรุงและให้ความชุ่มชื้นแทน
  6. เลือกทานอาหารที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน
    • แนะนำให้ทาน ปลาแซลมอน ไข่ขาว ถั่ว วิตามินซีจากผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง หรือเบอร์รี่
    • ดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร เพื่อให้ผิวอิ่มน้ำและฟื้นตัวเร็วขึ้น
  7.  ใช้ทรีทเมนต์หรือเลเซอร์เสริมได้ แต่อย่าทำทันทีหลังการรักษา
    • หากต้องการคงผลลัพธ์ให้นานขึ้น สามารถทำ Skin Booster, PRP หรือเลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ได้ หากต้องการทำเลเซอร์เสริม เช่น Pico Laser หรือ Skin Booster ควรรอ 2-4 สัปดาห์หลังทำ Ulthera หรือ HIFU เพื่อไม่ให้รบกวนการสร้างคอลลาเจนใหม่

สรุป Ulthera Prime, Ultraformer III, Thermage และ Oligio อะไรดีที่สุดสำหรับคุณ?

การเลือก Ulthera Prime, Ultraformer III, Thermage หรือ Oligio ขึ้นอยู่กับ ปัญหาผิวและผลลัพธ์ที่ต้องการ ของแต่ละบุคคล

  • หากต้องการยกกระชับลึกสุดและอยู่ได้นาน → เลือก Ulthera Prime
  • หากต้องการกระชับหน้าแบบเจ็บน้อยกว่าและราคาย่อมเยา → เลือก Ultraformer III
  • หากต้องการลดริ้วรอยและฟื้นฟูคอลลาเจนโดยไม่เจ็บ → เลือก Thermage
  • หากต้องการกระชับผิวอย่างอ่อนโยน ลดริ้วรอยแบบไม่เจ็บและเหมาะกับผิวบอบบาง → เลือก Oligio

อย่างไรก็ตาม อยากแนะนำให้เข้ามาปรึกษากับคุณหมอที่คลินิก เพื่อประเมินและเลือกหัตถการที่เหมาะสมกับคุณที่สุด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ครับ

smooth clinic logo light
Get This Treatment
ติดต่อเรา