ฝ้า เกิดจากอะไร? วิธีรักษาฝ้าให้จางลง 2025

“ฝ้า” เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่พบบ่อย โดยเฉพาะในคนวัยทำงานและผู้ที่ต้องเจอแสงแดดเป็นประจำ รอยปื้นสีน้ำตาลหรือเทาอมน้ำตาลบนใบหน้าอาจไม่ทำให้เจ็บหรือคัน แต่ส่งผลต่อความมั่นใจและภาพลักษณ์ได้อย่างมาก หลายคนสงสัยว่า ฝ้าเกิดจากอะไร? และ รักษาฝ้าได้อย่างไรให้เห็นผลจริง

บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจเรื่องฝ้า ตั้งแต่สาเหตุ ชนิดของฝ้า ปัจจัยกระตุ้น วิธีการรักษาทั้งแบบใช้ครีม เลเซอร์ และหัตถการใหม่ ๆ ไปจนถึงแนวทางดูแลหลังการรักษาและค่าใช้จ่ายที่ควรรู้ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง

สารบัญ hide

ฝ้าคืออะไร?

ฝ้า (Melasma) เป็นภาวะผิวหนังที่เกิดจากการสร้างเม็ดสีเมลานินมากเกินไป ทำให้เกิดรอยสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้มบนผิว โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก เหนือริมฝีปาก และจมูก

ลักษณะของฝ้า

  • มีสีออกน้ำตาล เทา หรือน้ำตาลเข้ม
  • มักเกิดแบบสมมาตร คือขึ้นทั้งสองข้างของใบหน้า
  • พบบ่อยในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
  • อาการไม่ทำให้เจ็บหรือคัน แต่ส่งผลต่อความมั่นใจ

ฝ้า vs กระ vs จุดด่างดำ ต่างกันยังไง?

ปัญหาผิวทั้งสามอย่างนี้มักถูกสับสน แต่แท้จริงแล้วมีลักษณะและสาเหตุที่ไม่เหมือนกัน

ปัญหาผิว ลักษณะ สาเหตุหลัก ตำแหน่งที่พบบ่อย
ฝ้า (Melasma) ปื้นสีน้ำตาลหรือเทาอมน้ำตาล ขึ้นแบบสมมาตร แสงแดด ฮอร์โมน พันธุกรรม โหนกแก้ม หน้าผาก เหนือริมฝีปาก
กระ (Freckles) จุดเล็กสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม เห็นชัดเมื่อโดนแดด กรรมพันธุ์ แสงแดด ใบหน้า ไหล่ แขน
จุดด่างดำ (Dark Spots) รอยสีเข้มหลังการอักเสบ เช่น รอยสิว การอักเสบ แผล แดดจัด กระจายทั่วใบหน้าและร่างกาย

ฝ้ามีกี่ชนิด? ตื้น ลึก หรือผสม

ฝ้าตื้น (Epidermal Melasma)

เกิดขึ้นที่ชั้นหนังกำพร้า มีสีน้ำตาลเข้ม ขอบเขตชัดเจน มักตอบสนองต่อการรักษาได้ดีกว่าฝ้าชนิดอื่น

ฝ้าลึก (Dermal Melasma)

เกิดในชั้นหนังแท้ สีออกน้ำตาลเทาหรือเทาอมฟ้า ขอบเขตไม่ชัดเจน รักษาให้จางลงได้ยากและมักต้องใช้หัตถการร่วม

ฝ้าผสม (Mixed Type)

พบได้บ่อยที่สุด มีทั้งลักษณะฝ้าตื้นและฝ้าลึกในคนเดียวกัน ทำให้ต้องใช้หลายวิธีรักษาควบคู่กันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ฝ้าเกิดจากอะไร? ปัจจัยกระตุ้นที่พบบ่อย

แสงแดด

รังสีอัลตราไวโอเลต (UVA/UVB) เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เม็ดสีเมลานินผลิตมากขึ้น ส่งผลให้ฝ้าเข้มและชัดขึ้น

ฮอร์โมน

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น การตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด หรือภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล มีผลต่อการกระตุ้นเม็ดสี

พันธุกรรม

ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นฝ้ามีโอกาสเกิดฝ้าได้สูงกว่า

การอักเสบและสิ่งแวดล้อม

มลภาวะ ความเครียด การนอนพักผ่อนไม่พอ และการอักเสบของผิว เช่น รอยสิว สามารถกระตุ้นให้ฝ้าเห็นชัดขึ้น

ทำไมฝ้าถึงรักษายากและกลับมาเป็นซ้ำ?

ฝ้าเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย

ฝ้าไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียว แต่มีทั้งแสงแดด ฮอร์โมน พันธุกรรม และสิ่งแวดล้อมร่วมกัน ทำให้ยากต่อการควบคุม

เม็ดสีอยู่ลึกในผิว

ในบางชนิด เช่น ฝ้าลึก เม็ดสีสะสมอยู่ในชั้นหนังแท้ การรักษาด้วยครีมหรือวิธีทั่วไปอาจเข้าถึงได้ยาก

เซลล์สร้างเม็ดสีไวต่อการกระตุ้น

แม้รักษาจนจางแล้ว แต่เมื่อได้รับแสงแดดหรือฮอร์โมนกระตุ้นอีก ฝ้ามีโอกาสกลับมาใหม่

การดูแลระยะยาวจำเป็น

ฝ้าเป็นภาวะเรื้อรัง จึงต้องใช้การรักษาต่อเนื่องร่วมกับการป้องกัน เช่น การทาครีมกันแดดและการดูแลผิวประจำวัน

อาหารและโภชนาการที่ช่วยลดความเสี่ยงฝ้า

อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ

ผักและผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซี วิตามินอี และโพลีฟีนอล เช่น ส้ม เบอร์รี่ และผักใบเขียว ช่วยลดการทำลายคอลลาเจนจากรังสี UV และลดการเกิดเม็ดสีส่วนเกิน

กรดไขมันดี

ปลาแซลมอน อะโวคาโด และถั่ว ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ และสนับสนุนการซ่อมแซมผิว

ดื่มน้ำเพียงพอ

การดื่มน้ำวันละ 1.5–2 ลิตร ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นและฟื้นฟูได้ดีขึ้น

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

อาหารที่มีน้ำตาลสูง แอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ สามารถกระตุ้นการอักเสบและทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น

ฝ้าในผู้ชาย พบได้บ่อยไหม?

อัตราการพบในผู้ชาย

แม้ฝ้าจะพบบ่อยในผู้หญิง แต่ผู้ชายก็สามารถเป็นฝ้าได้เช่นกัน โดยมีรายงานว่าประมาณ 10–25% ของผู้ป่วยฝ้าเป็นเพศชาย

ปัจจัยกระตุ้นในผู้ชาย

สาเหตุหลักคล้ายกับผู้หญิง เช่น แสงแดดและพันธุกรรม แต่ในผู้ชายมักสัมพันธ์กับการทำงานกลางแจ้ง การเล่นกีฬา และการไม่ใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

การรักษาฝ้าในผู้ชาย

แนวทางการรักษาไม่ต่างจากผู้หญิง ได้แก่ การใช้ครีมลดเม็ดสี เลเซอร์ และหัตถการ แต่สิ่งสำคัญคือการป้องกันแสงแดดและการดูแลผิวต่อเนื่อง

วิธีรักษาฝ้า 2025: มีอะไรบ้าง?

การใช้ครีมและสกินแคร์

ครีมที่มีสารลดเม็ดสี เช่น ไฮโดรควิโนน วิตามินซี อาร์บูติน และไนอาซินาไมด์ สามารถช่วยให้ฝ้าดูจางลงเมื่อใช้ต่อเนื่อง

การทำเลเซอร์และเทคโนโลยีใหม่

เลเซอร์และพลังงานคลื่นวิทยุ เช่น Sylfirm X Plus ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีและฟื้นฟูผิวจากภายใน

การฉีดกระตุ้นคอลลาเจน

Biostimulator เช่น PLLA หรือ CaHA ช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิว ลดความหมองคล้ำและทำให้ผิวดูสดใสขึ้น

การดูแลแบบเสริม

การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ การใช้ IV Drip และการป้องกันแดดอย่างเคร่งครัด เป็นส่วนสำคัญในการเสริมประสิทธิภาพการรักษา

ครีมรักษาฝ้า: ใช้ได้ผลจริงหรือไม่?

สารออกฤทธิ์ที่ใช้บ่อย

  • ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone): ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน เห็นผลชัดเมื่อใช้ต่อเนื่องภายใต้การดูแลของแพทย์
  • วิตามินซี (Vitamin C): ลดการสร้างเม็ดสีและเสริมความกระจ่างใส
  • อาร์บูติน (Arbutin) และไนอาซินาไมด์ (Niacinamide): ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้น

ข้อจำกัดของครีมรักษาฝ้า

  • ใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะเห็นผลชัดเจน
  • อาจเกิดการระคายเคืองหรือดื้อยา หากใช้ไม่ถูกต้อง
  • ไม่สามารถรักษาฝ้าลึกได้ทั้งหมด

เหมาะกับใคร

ครีมรักษาฝ้าเหมาะกับผู้ที่มีฝ้าตื้นหรือฝ้าเริ่มต้น และมักใช้ร่วมกับหัตถการเพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น

เลเซอร์รักษาฝ้า: เทคโนโลยีใหม่ Sylfirm X Plus 2025

Sylfirm X Plus ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF Microneedling) ส่งลงลึกสู่ชั้นผิว เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติ พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมผิว

จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้

  • ลดเลือนฝ้าได้ทั้งฝ้าตื้นและฝ้าลึก
  • ฟื้นฟูคุณภาพผิวให้เรียบเนียนและกระจ่างใส
  • เจ็บน้อย ระยะพักฟื้นสั้น

เหมาะกับผู้ที่มีฝ้าเรื้อรัง ดื้อต่อครีมหรือเลเซอร์รุ่นเก่า และต้องการผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ

Biostimulator: ฟื้นฟูผิวใส ลดเลือนฝ้าเรื้อรัง

Biostimulator สารฉีดที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว เช่น Poly-L-lactic acid (PLLA) หรือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ทำให้ผิวฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติ

ประโยชน์ต่อการรักษาฝ้า

  • ปรับคุณภาพผิวโดยรวมให้แข็งแรงขึ้น
  • ลดความหมองคล้ำและรอยดำที่เกี่ยวข้องกับฝ้า
  • ช่วยเสริมประสิทธิภาพเมื่อใช้ร่วมกับเลเซอร์หรือครีม

เหมาะสำหรับผู้ที่มีฝ้าเรื้อรัง ร่วมกับปัญหาผิวเสื่อมสภาพหรือริ้วรอย และต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน

วิธีดูแลผิวหลังเลเซอร์รักษาฝ้า

หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง

หลังทำเลเซอร์ ผิวไวต่อรังสี UV มากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการตากแดดจัด และทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไปทุกวัน

ใช้สกินแคร์ที่อ่อนโยน

เลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือเซรั่มที่ช่วยลดการระคายเคือง หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีกรดแรงหรือเรตินอยด์จนกว่าผิวจะฟื้นตัว

ประคบเย็นหากมีรอยแดง

หากมีอาการร้อนหรือแดง สามารถประคบเย็นเบา ๆ เพื่อช่วยลดอาการได้

ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์

ควรใช้ยาหรือครีมที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวและลดความเสี่ยงของรอยดำหลังเลเซอร์

รีวิวเคสจริงรักษาฝ้า Smooth Clinic

เคสฝ้าเรื้อรัง

ผู้รับการรักษามีฝ้าลึกและเป็นมานานหลายปี ได้รับการทำ Sylfirm X Plus ร่วมกับการใช้ครีมลดเม็ดสี ผลคือรอยฝ้าดูลดลงและผิวดูเรียบเนียนขึ้น

เคสฝ้าตื้น

ผู้ที่มีฝ้าตื้นบริเวณโหนกแก้ม ได้รับการรักษาด้วย Skin Quality ควบคู่กับการป้องกันแดดอย่างเคร่งครัด พบว่าผิวดูสม่ำเสมอและกระจ่างใสมากขึ้น

เคสฝ้าร่วมกับผิวเสื่อมสภาพ

คนไข้มีฝ้าผสมกับปัญหาผิวหมองคล้ำและริ้วรอย ได้รับการรักษาด้วย Biostimulator ร่วมกับเลเซอร์ ผลลัพธ์คือผิวดูเต่งตึงและฝ้าจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ

หมายเหตุ

ผลลัพธ์แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นกับชนิดของฝ้าและการตอบสนองต่อการรักษา

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับการรักษาฝ้า

รักษาฝ้าหายขาดได้ไหม?

ฝ้าเป็นภาวะเรื้อรัง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถทำให้จางลงและควบคุมไม่ให้เข้มขึ้นด้วยการรักษาและการป้องกันอย่างต่อเนื่อง

ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?

ขึ้นกับชนิดของฝ้าและวิธีการรักษา ส่วนใหญ่ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งจึงเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน

การรักษาฝ้าเจ็บไหม?

หัตถการส่วนใหญ่ เช่น เลเซอร์หรือ Biostimulator อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยหรืออุ่นขณะทำ แต่สามารถใช้ยาชาช่วยลดความรู้สึกไม่สบายได้

หลังทำต้องพักฟื้นนานหรือไม่?

ส่วนใหญ่มีเพียงรอยแดงเล็กน้อย 1–2 วัน และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

ค่าใช้จ่ายแพงไหม?

ขึ้นกับชนิดของหัตถการและจำนวนครั้งในการรักษา โดยทั่วไปมีตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่นบาทต่อครั้ง

สรุป: เลือกวิธีรักษาฝ้าอย่างไรให้เหมาะกับคุณ

ประเมินชนิดและความรุนแรงของฝ้า

เริ่มต้นจากการตรวจว่าฝ้าเป็นแบบตื้น ลึก หรือผสม เพื่อวางแผนการรักษาได้ตรงจุด

เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะ

  • ฝ้าตื้น: มักตอบสนองได้ดีกับครีมลดเม็ดสีและเลเซอร์
  • ฝ้าลึกหรือเรื้อรัง: อาจต้องใช้เลเซอร์รุ่นใหม่ เช่น Sylfirm X Plus ร่วมกับ Biostimulator
  • ฝ้าผสม: ต้องอาศัยการรักษาหลายวิธีควบคู่กัน

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การรักษาฝ้าไม่มีสูตรตายตัว การให้แพทย์ประเมินและออกแบบแผนเฉพาะบุคคลจะช่วยเพิ่มโอกาสได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและยั่งยืน

smooth clinic logo light
Get This Treatment
ติดต่อเรา