Smooth FmH 1080X1920Smooth Cover Web Smooth 1177X1460 5

โบท็อกซ์นับเป็นหัตถการทางความงามที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากที่สุดมาช้านาน มักจะเป็นการรักษาแรกๆที่คนไข้ที่เข้าคลินิกความงามเลือกจะใช้บริการ เนื่องจากมีความปลอดภัยสูงมาก ผลลัพธ์ที่ได้มีความชัดเจน และหากไม่ชอบในผลลัพธ์สุดท้ายก็สามารถรอให้ยาหมดฤทธิ์ไปเองได้โดยที่ไม่ได้มีผลข้างเคียงใดๆในระยะยาว

โบท็อกซ์คืออะไร

โบท็อกซ์คือสารที่ชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) เป็นสารพิษที่ถูกสกัดมาจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม  (Clostridium botulinum) โดยโบท็อกซ์มีกระบวนการทำงานโดยรบกวนการส่งผ่านของระบบประสาท ปิดกั้นการเชื่อมต่อของระบบประสาทหลักและกล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาต เกิดอาการอ่อนแรงชั่วคราว
ด้วยหลักการทำงานของโบท็อกซ์ข้างต้นจึงได้มีการนำโบท็อกซ์เข้ามาใช้ในการรักษาทางการแพทย์ เช่น รักษาโรคกล้ามเนื้อกระตุก รักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน ส่วนในวงการเสริมความงามก็ได้มีการนำมาใช้ในการปรับรูปหน้าลดขนาดกรามให้เรียวเล็ก ลดเลือนริ้วรอย ลดปีกจมูก หรือลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เป็นต้น

ฉีดโบท็อกซ์บริเวณไหนได้บ้าง

การฉีดโบท็อกซ์สามารถทำได้หลายบริเวณทั้งร่างกายและใบหน้า ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล

18b8a078 38e0 4414 9abc 83d15265ebb4
  • โบท็อกซ์ริ้วรอย นับเป็นข้อบ่งชี้หลักในการฉีดโบท็อกซ์ โดยนำมาใช้ลดริ้วรอยขณะแสดงสีหน้า(Dynamic wrinkles) และสามารถช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยร่องลึก(Static wrinkles) ในอนาคตได้อีกด้วย บริเวณที่ฉีดจะมีตีนกา ร่องขมวดคิ้ว รอยย่นหน้าผาก รอยย่นบริเวณข้างจมูก
  • โบท็อกซ์กราม แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อกรามใหญ่ โดยจะเข้าไปจะลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กรามมีขนาดเล็กลง ใบหน้าดูเรียวเล็กลง
  • โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า แก้ไขปัญหากรอบหน้าไม่ชัด ผิวหน้าหย่อนคล้อย ช่วยให้ผิวบริเวณกรอบหน้ากระชับขึ้น
  • โบท็อกซ์ลิฟคอ เป็นการฉีดเพื่อคลายกล้ามเนื้อส่วนคอ ช่วยลดเส้นริ้วรอยบริเวณคอให้ดูกระชับขึ้น
  • โบท็อกซ์กระชับรูขุมขน แก้ปัญหารูขุมขนกว้างให้รูขุมขนกระชับขึ้น ใบหน้าเรียบเนียน ลดความมันบนใบหน้า และลดโอกาสในการเกิดสิว
  • โบท็อกซ์ปีกจมูก โบท็อกซ์จมูกรัดแกน เป็นการฉีดโบท็อกซ์ที่บริเวณจมูก เพื่อลดขนาดปีกจมูกลง และรัดแกนมากยิ่งขึ้น ให้แกนจมูกดูคมชัดขึ้น
  • โบท็อกซ์ลดเหงื่อ บริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกเยอะ หรือมีปัญหากลิ่นตัวร่วมด้วย ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ไม่กล้าทำกิจกรรมต่างๆอย่างเต็มที่
  • โบท็อกซ์ลดน่อง เป็นการฉีดเพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณน่อง แก้ปัญหาน่องใหญ่ น่องปูด ให้น่องมีขนาดเล็กลง ดูขาเรียวเล็กขึ้น
  • โบท็อกซ์รักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน เป็นการฉีดโบท็อกซ์บนจุดที่เกี่ยวข้องกับการเกิดไมเกรน ซึ่งจะช่วยให้อาการปวดไมเกรนลดลง

ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล

หลังจากฉีดโบท็อกซ์จะเริ่มเห็นผลการรักษาใน 2-14 วัน และเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ 2-4 สัปดาห์ ซึ่งระยะเวลาในการเห็นผลนั้นจะแตกต่างกันไปตามบริเวณที่ฉีด ขึ้นอยู่หลายปัจจัยเหตุด้วยกัน เช่น

  • ขนาดมัดของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด หากฉีดโบท็อกซ์ในบริเวณที่มีขนาดของมัดกล้ามเนื้อที่เล็กจะเห็นผลลัพธ์ไวขึ้น เช่น การฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยฉีดตรงมัดกล้ามเนื้อที่มีขนาดเล็ก หลังฉีด 2-3 วันก็จะเริ่มรู้สึกตึงขึ้น
  • ปริมาณโบท็อกซ์ที่ได้รับ การฉีดโบท็อกซ์ควรได้รับในปริมาณที่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด ซึ่งถ้าได้รับน้อยเกินกว่าจำนวนยูนิตที่ควรได้รับก็จะเห็นผลช้าหรือไม่เห็นเลย
  • ความบริสุทธิ์ของตัวโบท็อกซ์ที่ฉีด ปัจจุบันมีโบท็อกซ์ให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละตัวจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปตามความบริสุทธิ์ของตัวยา โดยหากเลือกใช้โบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูงจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้ดีและเร็วขึ้น
  • การตอบสนองของร่างกาย หากร่างกายมีการตอบรับโบท็อกซ์ได้ดี มีการดูดซึมและแพร่กระจายได้ดี ไม่มีอาการดื้อโบท็อกซ์ ก็จะเห็นผลลัพธ์ในการฉีดโบท็อกซ์ที่ดี

โบท็อกซ์แต่ละบริเวณต้องใช้กี่ยูนิต

ปริมาณยูนิตที่ใช้ในการฉีดโบท็อกซ์จะแตกต่างกันไปในตามปัญหาของแต่ละบุคคล บริเวณที่ต้องการฉีด และขนาดของมัดกล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆ โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาจะเป็นผู้ประเมินจำนวนยูนิตในแต่ละเคสก่อนทำการรักษา

ฉีดโบท็อกซ์กราม จะใช้อยู่ที่ประมาณ 30-50 ยูนิต

ฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า จะใช้อยู่ที่ประมาณ 30-50 ยูนิต

ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก จะใช้อยู่ที่ประมาณ 15-20 ยูนิต

ฉีดโบท็อกซ์หว่างคิ้ว จะใช้อยู่ที่ประมาณ 6-15 ยูนิต

ฉีดโบท็อกซ์หางตา จะใช้อยู่ที่ประมาณ 10-25 ยูนิต

ฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูก จะใช้อยู่ที่ประมาณ 25 ยูนิต

ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ จะใช้อยู่ที่ประมาณ 50-100 ยูนิต

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์

  1. ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ให้ชัดเจน แจ้งประวัติการฉีดโบท็อกซ์ ประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบก่อนการฉีด
  2. งดทานยาแอสไพริน กลุ่มยาที่ต้านการแข็งตัวของเลือด 1 สัปดาห์ก่อนฉีดโบท็อกซ์
  3. งดทานวิตามิน อาหารเสริม เช่น น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย 1 สัปดาห์ก่อนฉีดโบท็อกซ์

เพราะมีผลทำให้เลือดหยุดไหลยาก

  1. งดดื่มแอลกอฮอล์ 1 วันก่อนฉีดโบท็อกซ์

การดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์

  1. บริหารกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ขยับหรือเกร็งกล้ามเนื้อหลังทำเสร็จทันที
  2. งดการนอนราบ นอนตะแคง นอนคว่ำ 3-4 ชั่วโมงหลังฉีด
  3. งดการนวด หรือกดบริเวณที่ฉีด
  4. งดแต่งหน้าหลังจากฉีดโบท็อกซ์ 24 ชั่วโมง
  5. งดการออกกำลังกายหนักๆหลังจากฉีดโบท็อกซ์ 24 ชั่วโมง
  6. งดการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และทานของหมักดอง 1-2 สัปดาห์
  7. หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน แดดแรงๆ การอบซาวน่า หรือเลเซอร์ต่างๆ 2 สัปดาห์

สรุป

การฉีดโบท็อกซ์ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในวงการเสริมความงาม และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลงด้วยการฉีดโบท็อกซ์กราม หรือโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า และยังนิยมใช้ฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย ตามบริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว และหางตา เพื่อลดริ้วรอย ให้ใบหน้าดูเรียบตึงมากยิ่งขึ้น

หากท่านไหนสนใจที่จะฉีดโบท็อกซ์หมอแนะนำว่าควรเลือกใช้โบท็อกซ์ที่มีคุณภาพ ระวังโบท็อกซ์หิ้วหรือโบท็อกซ์ปลอมที่ไม่ได้การรับรองจากอย. และฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อผลลัพธ์ในการรักษาที่ดี

smooth clinic logo light
Get This Treatment
ติดต่อเรา