Smooth F[mH 1080X1920 2Smooth Cover Web Smooth 1177X1460 6

เลเซอร์ขนอย่างอ่อนโยน เผยผิวใส กำจัดขนถาวร เจ็บน้อย

หากคุณกำลังเบื่อกับการโกนขน ถอนขน หรือแว็กซ์บ่อย ๆ จนผิวระคายเคือง เกิดขนคุด หรือรู้สึกไม่มั่นใจ เลเซอร์ขนอาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา

จริง ๆ แล้ว การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ ไม่ใช่แค่เรื่องของความเรียบเนียนหรือความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการดูแลผิวในเชิงลึก ลดการระคายเคือง ช่วยให้ผิวใสขึ้น

ในบทความนี้ หมอจะพาคุณไปทำความรู้จักกับเลเซอร์ขนแบบละเอียด ตั้งแต่หลักการทำงาน ข้อดี ความปลอดภัย ประเภทของเลเซอร์ วิธีเลือกคลินิก ไปจนถึงผลลัพธ์ระยะยาว พร้อมเจาะลึกเทคโนโลยีระดับพรีเมียมอย่าง Primelase Excellence ที่คลินิกเราเลือกใช้

เป็นเครื่องจากประเทศสเปน เป็นเทคโนโลยีกำจัดขนด้วยเครื่องเลเซอร์ Diode ที่มีการผสมผสานความยาวคลื่น 3 พลังงานด้วยกันคือ 810 nm, 940 nm และ 1060 nm เพื่อการกำจัดขนอย่างมีประสิทธิภาพในทุกสภาพผิวที่แตกต่าง (Skin type I-IV) ได้ทั้งผิวคล้ำ ผิวแทน และสามารถกำจัดขนได้ทุกประเภทเส้นขน แม้แต่ขนอ่อนก็สามารถกำจัดได้เป็นอย่างดี โดยส่งพลังงานเข้มข้นลงลึกจนถึงรากขน

พร้อมเทคโนโลยี Crystal Freeze ที่มีระบบระบายความร้อน ทำให้หัวเลเซอร์มีความเย็นตลอดเวลาที่ยิงเลเซอร์ เพื่อปกป้องผิวไม่ให้เกิดความร้อนมากเกินไปในขณะที่เลเซอร์อยู่ จึงสามารถกำจัดขนได้อย่างอ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว เผยผิวเรียบเนียนดูกระจ่างใส

สารบัญ hide

เลเซอร์ขนคืออะไร?

“เลเซอร์ขน” หรือ “เลเซอร์กำจัดขน” คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้ พลังงานแสงเลเซอร์ความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจง ยิงไปยังบริเวณที่มีเส้นขน โดยแสงเลเซอร์จะถูกดูดซับโดย เม็ดสี (Melanin) ที่อยู่ภายในรากขน และเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ส่งผลให้รากขนถูกทำลาย โดยไม่ทำร้ายผิวหนังรอบข้าง

จุดเด่นของการกำจัดขนด้วยเลเซอร์คือ ความแม่นยำ และ ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า เมื่อเทียบกับการกำจัดขนแบบชั่วคราว เช่น การโกน แว็กซ์ หรือครีมกำจัดขน เพราะเลเซอร์ทำลายลึกถึงรากขน ซึ่งทำให้ขนงอกใหม่ช้าลงหรือหยุดไปอย่างถาวรเมื่อทำครบตามรอบการรักษา

อีกหนึ่งข้อได้เปรียบของเลเซอร์ขน คือ ช่วยลดปัญหา ขนคุด ตุ่มหนังไก่ รูขุมขนอักเสบ และยังช่วยให้ ผิวดูเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อทำอย่างต่อเนื่องภายใต้การดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ

แม้จะมีเทคโนโลยีเลเซอร์หลากหลายแบบ แต่หัวใจสำคัญของการทำเลเซอร์ขนคือการเลือกพลังงานและความยาวคลื่นให้เหมาะกับ เฉดสีผิวและลักษณะเส้นขน เพื่อให้ปลอดภัยและเห็นผลดีที่สุด ซึ่งเราจะลงรายละเอียดของประเภทเลเซอร์ในหัวข้อถัดไป

ประเภทของเลเซอร์ขนที่ใช้ในปัจจุบัน

เทคโนโลยีเลเซอร์กำจัดขนมีให้เลือกหลายประเภท โดยแต่ละชนิดจะมีความยาวคลื่นต่างกัน ส่งผลต่อประสิทธิภาพ ความรู้สึกขณะทำ และความเหมาะสมกับสีผิวหรือเส้นขนของแต่ละคน ดังนี้

1. Diode Laser

Diode Laser เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมสูงในคลินิกความงาม เพราะให้ความยาวคลื่นประมาณ 800–810 nm ซึ่งสามารถ เจาะลึกถึงรากขนได้ดี และมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดขนที่เส้นหนาและเข้ม โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ ขา และแขน

ข้อดี

  • เห็นผลชัดเจนในกลุ่มคนผิวสองสีถึงผิวคล้ำอ่อน
  • ขนลดลงชัดเจนหลัง 3–5 ครั้ง
  • เจ็บน้อยเมื่อใช้เครื่องที่มีระบบ Cooling

ข้อจำกัด

  • อาจได้ผลช้ากับขนอ่อนหรือขนสีอ่อนมาก

2. Alexandrite Laser

เลเซอร์ชนิดนี้ให้ความยาวคลื่น 755 nm ซึ่งเหมาะกับคนที่มีผิวขาวและขนเส้นเข้ม Alexandrite ถือว่าให้ผลเร็ว เหมาะกับการกำจัดขนบริเวณใบหน้า แขน ขา และจุดที่ผิวบาง

ข้อดี

  • เห็นผลรวดเร็วภายในไม่กี่ครั้ง
  • เหมาะกับคนผิวขาวที่มีขนเข้ม
  • ลดจุดด่างดำร่วมกับการกำจัดขนได้

ข้อจำกัด

  • ไม่เหมาะกับคนผิวคล้ำ เพราะเสี่ยงต่อผิวไหม้หรือรอยดำ

3. Nd:YAG Laser

เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1064 nm ซึ่งสามารถเจาะลึกได้ลึกกว่าชนิดอื่น และ ปลอดภัยมากที่สุดสำหรับผิวคล้ำ เหมาะกับการกำจัดขนในผู้ที่มีผิวคล้ำหรือผิวสองสีมาก ๆ

ข้อดี

  • ปลอดภัยสูงสุดกับคนผิวคล้ำ
  • ลดการเกิดขนคุดและตุ่มอักเสบได้ดี
  • ใช้ในบริเวณผิวที่บอบบาง เช่น ขอบบิกินี่หรือใบหน้า

ข้อจำกัด

  • ขนจะหลุดช้ากว่าเลเซอร์ชนิดอื่นเล็กน้อย
  • บางรายอาจรู้สึกเจ็บมากกว่าเลเซอร์ประเภทอื่น

4. IPL (Intense Pulsed Light)

แม้ไม่ใช่ “เลเซอร์” แท้ ๆ แต่ IPL ก็เป็นเทคโนโลยีแสงความเข้มสูงที่ใช้ในการกำจัดขนเช่นกัน จุดเด่นคือราคาถูก แต่ผลลัพธ์มักจะไม่ถาวรเท่าการทำเลเซอร์จริง

ข้อดี

  • ราคาถูกกว่าเลเซอร์
  • ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใสควบคู่ไปกับกำจัดขน

ข้อจำกัด

  • ต้องทำบ่อยและนานกว่าจะเห็นผล
  • ผลลัพธ์ไม่นาน และขนมักกลับมาเร็ว

สรุป: การเลือกเลเซอร์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสีผิว ประเภทขน และพื้นที่ที่ต้องการกำจัดขน รวมถึงงบประมาณ โดยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มการรักษาถือเป็นกุญแจสำคัญ

ทำไมการกำจัดขนถาวรถึงสำคัญ?

ในยุคที่ทุกอย่างต้องเร็ว สะดวก และสะอาด การกำจัดขนถาวรไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสวยงามอีกต่อไป แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพผิว ความมั่นใจ และคุณภาพชีวิตในระยะยาว

1. ลดปัญหาผิวอักเสบ และขนคุดเรื้อรัง

หลายคนประสบปัญหา “ขนคุด” หรือ “รูขุมขนอักเสบ” จากการโกน แว็กซ์ หรือถอนขนเป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ ขาหนีบ หรือใบหน้า ซึ่งอาจทำให้เกิดตุ่มแข็ง ผิวคล้ำ หรือรอยดำสะสม การทำเลเซอร์ช่วย “ทำลายขนจากต้นตอ” จึงช่วยลดการเกิดขนคุดในระยะยาว

2. ผิวเรียบเนียน สม่ำเสมอขึ้น

เมื่อไม่มีเส้นขนคอยบดบังแสงสะท้อนบนผิว ผิวจะดูเรียบ สว่าง และมีออร่ามากขึ้น อีกทั้งยังลดจุดด่างดำจากการโกนผิดวิธีหรือเสียดสีกับเสื้อผ้า การเลเซอร์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อผิว “เนียน ใส ดูสุขภาพดี” อย่างแท้จริง

3. เพิ่มความมั่นใจในชีวิตประจำวัน

ไม่ว่าจะใส่แขนกุด เสื้อเปิดหลัง หรือบิกินี่ การไม่มีเส้นขนคอยกวนใจก็ช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้ “แบบไม่ต้องกังวล” ว่าขนจะโผล่เมื่อไหร่ ต้องโกนตอนไหน หรือมีขนดำ ๆ โผล่ให้เห็นในรูปถ่ายหรือแสงแดด

4. ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายระยะยาว

ลองคำนวณดูว่าคุณเสียเงินกับครีมโกนขน แว็กซ์ หรือเข้าร้านกำจัดขนบ่อยแค่ไหนในแต่ละปี? เมื่อเทียบกับคอร์สเลเซอร์ที่ทำครบ 6–8 ครั้งแล้วจบจริง การลงทุนครั้งเดียวจึงคุ้มค่ากว่าอย่างเห็นได้ชัด

5. สุขอนามัยดีขึ้น โดยเฉพาะจุดซ่อนเร้น

การไม่มีขนในจุดอับ เช่น รักแร้ หรือบิกินี่ไลน์ ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องออกกำลังกายหรืออยู่ในสภาพอากาศร้อนชื้น

เลเซอร์ขนเหมาะกับใครบ้าง?

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์เป็นทางเลือกยอดนิยมที่เหมาะกับคนหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับขน หรือเพียงแค่อยากมีผิวเนียนใสแบบไร้ขนกวนใจ โดยเฉพาะหากเลือกเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ทันสมัย เช่น Diode Laser หรือ Primelase Excellence ยิ่งขยายขอบเขตของผู้ที่สามารถเข้ารับบริการได้กว้างขึ้น

ผู้หญิงที่ต้องการดูแลตัวเอง

  • เหมาะกับคนที่เบื่อกับการโกนขนบ่อย ๆ
  • มีขนคุดบริเวณบิกินี่หรือขา
  • ต้องการผิวใส เรียบเนียน ไม่สะดุดเมื่อแต่งตัว

ผู้ชายที่ต้องการลุคสะอาด สุภาพ

  • ขนหน้าอก หนวด หรือหลังหนาเกินไป
  • ผิวบริเวณเคราเกิดการระคายเคืองจากการโกน
  • อยากได้ลุคหน้าใส เรียบเนียน โดยเฉพาะหนุ่มออฟฟิศหรือออกกำลังกายบ่อย

ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ขนคุดบ่อย

  • ผิวไวต่อการโกนหรือแว็กซ์
  • ขนงอกย้อนทำให้เป็นตุ่มหนองบ่อย
  • เคยมีประวัติรูขุมขนอักเสบ ต้องการลดการระคายเคือง

คนที่มีขนเส้นเล็ก ขนอ่อน หรือขนบาง

  • โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า หรือแขน
  • แม้ขนจะไม่หนา แต่ดูรำคาญสายตาหรือแต่งหน้าไม่เรียบ
  • ใช้เลเซอร์แบบเฉพาะทางที่เหมาะกับขนอ่อน เช่น Primelase Excellence จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า IPL ทั่วไป

ผู้ที่มีปัญหาฮอร์โมน เช่น PCOS

  • ขึ้นขนผิดปกติบริเวณหน้าอก หน้าท้อง หรือใบหน้า
  • ขนดกเกินปกติแม้เป็นผู้หญิง
  • เลเซอร์ช่วยควบคุมปัญหาขนร่วมกับการรักษาภาวะฮอร์โมน

เลเซอร์ขนบริเวณไหนได้บ้าง

  1. การกำจัดขนด้วยเลเซอร์สามารถกำจัดขนได้หลายบริเวณทั่วใบหน้าและร่างกาย
  2. เลเซอร์ขนรักแร้ ลดปัญหาหนังไก่ ขนคุด ให้รักแร้เนียนกระจ่างใส
  3. เลเซอร์หนวดเครา ลดปัญหาเส้นขนบนใบหน้า ให้ใบหน้าเรียบเนียน ไร้ขน โดยไม่ต้องโกนหนวดทุกวัน
  4. เลเซอร์ขนแขน ให้ผิวบริเวณแขนเรียบเนียน ใส่แขนสั้น แขนกุดได้อย่างมั่นใจ
  5. เลเซอร์ขนขา แก้ปัญหาขนขาเยอะ ขนดก ไม่ต้องโกนหรือแว็กซ์ให้ขนคุดเป็นตอ
  6. เลเซอร์ขนบริเวณหน้าอก แก้ปัญหาขนหน้าอกเยอะ ดูยุ่งเหยิงและเหงื่อออกง่าย
  7. เลเซอร์ขนบริเวณหน้าท้อง ให้ผิวบริเวณหน้าท้องดูเกลี้ยงเกลา สะอาดตา เพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
  8. เลเซอร์ขนหลัง แก้ปัญหาขนบริเวณหลัง เผยแผ่นหลังเรียบเนียน ไร้ขน
  9. เลเซอร์ขนบิกินี่ เป็นการเลเซอร์ขนบริเวณ VI คือบริเวณสามเหลี่ยมด้านหน้าและขอบบริเวณด้านข้าง ช่วยเสริมความมั่นใจ สวมใส่บิกินี่โดยไม่ต้องกังวลขนโผล่ออกมา
  10. เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เป็นการเลเซอร์ขนบริเวณ VIO จะเป็นการกำจัดขนทั่วบริเวณอย่างเกลี้ยงเกลา ทั้งบริเวณอวัยวะเพศ ร่องก้น และบั้นท้าย ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ลดความอับชื้น ลดปัญหาตอขนและความคัน

เลเซอร์ขนช่วยอะไรได้บ้าง?

การทำเลเซอร์ขนไม่ใช่แค่เพื่อลดขนอย่างถาวรเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผิวของคุณดูสุขภาพดีขึ้น มั่นใจขึ้น และดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้นในทุกวัน ด้วยประโยชน์ที่ครอบคลุมทั้งผิวหนังและการใช้ชีวิต ดังนี้

1. ลดขนคุดและตุ่มหนังไก่

การโกนหรือถอนขนบ่อย ๆ ทำให้ขนงอกย้อนกลับไปใต้ผิวหนัง เกิดเป็นตุ่มแข็ง ขนคุด และรูขุมขนอักเสบ ซึ่งทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนและบางครั้งอาจทิ้งรอยแผลถาวร การทำเลเซอร์ช่วยทำลายรากขนโดยไม่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ จึงช่วยลดขนคุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ผิวเนียนเรียบ สีผิวสม่ำเสมอขึ้น

ขนที่ปกคลุมผิวสามารถบดบังความสว่างและทำให้ผิวดูหมองคล้ำ การเลเซอร์ช่วยให้ผิวดูใสขึ้นโดยธรรมชาติ โดยเฉพาะในบริเวณที่โกนหรือแว็กซ์บ่อยอย่างรักแร้ แขน หรือขา

3. ลดกลิ่นอับ และแบคทีเรียสะสม

โดยเฉพาะบริเวณรักแร้หรือจุดซ่อนเร้นที่มีขนหนา มักเกิดความชื้นสะสมง่าย ซึ่งเป็นแหล่งเพาะแบคทีเรียและส่งผลให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ การไม่มีขนช่วยให้ระบายอากาศดีขึ้น ลดกลิ่นได้จริง

4. แต่งตัวง่าย มั่นใจทุกลุค

ไม่ต้องกังวลว่าขนจะโผล่เวลาใส่เสื้อแขนกุด กางเกงสั้น หรือชุดว่ายน้ำ ช่วยให้คุณกล้าแต่งตัวและแสดงความมั่นใจในทุกโอกาส ไม่ต้องรีบโกนก่อนออกจากบ้าน

5. แต่งหน้าเรียบเนียนขึ้น (เฉพาะใบหน้า)

ในผู้ที่มีขนอ่อนบริเวณใบหน้า การเลเซอร์สามารถช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบขึ้น แต่งหน้าติดทนมากขึ้น ลดการสะท้อนของขนบนผิวเมื่อโดนแสงแฟลชหรือแสงแดด

6. ลดอาการระคายเคืองจากการโกน

ผิวบาง ผิวแพ้ง่าย หรือมีอาการแสบแดงหลังโกนขนจะได้ประโยชน์จากเลเซอร์ เพราะไม่ต้องสัมผัสใบมีดหรือแรงดึงซ้ำ ๆ ที่ทำให้ผิวอ่อนแอ

ขั้นตอนการทำเลเซอร์ขน?

แม้ชื่อว่า “เลเซอร์” อาจฟังดูน่ากลัว แต่ความจริงแล้วขั้นตอนของการกำจัดขนด้วยเลเซอร์นั้น รวดเร็ว ปลอดภัย และสบายกว่าที่คิด โดยเฉพาะเมื่อใช้เครื่องเลเซอร์คุณภาพสูง เช่น Primelase Excellence ที่ช่วยลดความรู้สึกเจ็บและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแสงเลเซอร์ในทุกขั้นตอน

ก่อนเข้ารับบริการ

  • ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ: เพื่อประเมินประเภทขน สีผิว ประวัติสุขภาพ และเลือกเทคโนโลยีเลเซอร์ที่เหมาะสมที่สุด
  • งดถอนหรือแว็กซ์ขนล่วงหน้า 2–4 สัปดาห์: เพราะต้องให้รากขนอยู่ครบ เพื่อให้เลเซอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
  • โกนขนในพื้นที่ที่จะเลเซอร์ 1 วันก่อนเข้ารับบริการ: เพื่อให้แสงเลเซอร์เข้าถึงรากขนโดยไม่โดนเส้นขนด้านนอก
  • หลีกเลี่ยงแดดจัดและสครับผิว 3–5 วันก่อนทำ: เพื่อลดความระคายเคืองและความเสี่ยงต่อผิว

ระหว่างการทำเลเซอร์

  • ทำความสะอาดผิวก่อนเริ่ม: พนักงานจะเช็ดหรือล้างผิวในบริเวณที่จะทำเพื่อให้เลเซอร์ทำงานได้มีประสิทธิภาพ
  • ทาเจลหรือใช้หัวเลเซอร์ระบบเย็น: เพื่อปกป้องผิวและลดความรู้สึกเจ็บ
  • ยิงเลเซอร์: แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจะค่อย ๆ ยิงแสงเลเซอร์ในพื้นที่เป้าหมาย โดยใช้ความยาวคลื่นและพลังงานที่เหมาะกับผิวของแต่ละคน
  • ใช้เวลาประมาณ 5–30 นาที: แล้วแต่บริเวณ เช่น รักแร้ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ขาทั้งสองข้างอาจใช้ 30 นาทีขึ้นไป

หลังทำทันที

  • อาจมีอาการผิวอุ่น แดง หรือรู้สึกคล้ายผิวไหม้เล็กน้อย: ซึ่งจะหายไปภายใน 1–2 ชั่วโมง
  • ทาครีมบำรุงหรือเจลว่านหางจระเข้: เพื่อปลอบประโลมผิว
  • หลีกเลี่ยงความร้อน แสงแดด และกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก 24–48 ชม.

หลังทำเลเซอร์ขน ต้องดูแลยังไง?

แม้ว่าเลเซอร์ขนจะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้นและใช้เวลารักษาไม่นาน แต่การดูแลผิวหลังทำอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และส่งเสริมให้ผลลัพธ์ของการทำเลเซอร์มีประสิทธิภาพมากที่สุด

สิ่งที่ควรทำหลังทำเลเซอร์ขน

  1. ทาครีมปลอบประโลมผิว: ใช้เจลว่านหางจระเข้ หรือครีมบำรุงที่ไม่มีน้ำหอม เพื่อช่วยลดอาการแดง แสบ หรืออุ่นหลังทำเลเซอร์
  2. บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ: รักษาความชุ่มชื้นของผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่อ่อนโยน เพื่อช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว
  3. ทาครีมกันแดดทุกวัน (แม้ในที่ร่ม): ควรเลือกครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวคล้ำหรือเกิดจุดด่างดำหลังเลเซอร์
  4. สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ: โดยเฉพาะในบริเวณที่ทำเลเซอร์ เพื่อลดแรงเสียดสีและการระคายเคืองผิว

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังทำเลเซอร์ขน

  1. ห้ามขัด ถู หรือเกาแรง ๆ: โดยเฉพาะช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพราะผิวยังอ่อนไหว อาจเกิดการอักเสบหรือรอยดำ
  2. หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดและการทำกิจกรรมกลางแจ้ง: เช่น การออกกำลังกายกลางแจ้ง ว่ายน้ำ ทะเล หรือซาวน่า อย่างน้อย 3–5 วัน
  3. งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารระคายเคือง: เช่น กรดผลไม้ AHA/BHA, Retinol, Vitamin C ความเข้มข้นสูง จนกว่าผิวจะฟื้นตัวดี
  4. ห้ามถอน แว็กซ์ หรือโกนแรง ๆ: ปล่อยให้ขนที่ถูกทำลายโดยเลเซอร์หลุดออกตามธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการเร่งรัดด้วยการถอน

เลเซอร์ขนราคาโดยประมาณเท่าไหร่?

ราคาของการทำเลเซอร์ขนมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พื้นที่ที่ต้องการทำ เทคโนโลยีที่ใช้ จำนวนครั้งที่ทำ รวมถึงความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการ โดยปกติแล้ว ราคาจะถูกคำนวณเป็น “ต่อครั้ง” หรือ “แพ็กเกจแบบคอร์ส” เพื่อให้ผู้รับบริการสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้ชัดเจน

ตัวอย่างช่วงราคาโดยประมาณ (ราคาอ้างอิงทั่วไป ไม่ผูกกับคลินิกใดโดยตรง)

พื้นที่ราคาต่อครั้ง (โดยประมาณ)ราคาคอร์ส 5 ครั้ง (โดยประมาณ)
รักแร้1,000 บาท4,000 บาท
หนวด/เครา1,000 บาท4,000 บาท
แขนล่าง/ต้นแขน2,000 บาท7,500 บาท
ขาทั้งสองข้าง4,500 บาท20,000 บาท
บิกินี่/บราซิลเลียน2,500 บาท11,000 บาท

หมายเหตุ: ราคาที่แท้จริงอาจเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น หรือเทคโนโลยีเฉพาะที่คลินิกเลือกใช้

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาของการทำเลเซอร์ขน

  1. บริเวณที่ทำ: บริเวณเล็ก เช่น รักแร้ หนวด ริมบิกินี่ จะมีราคาน้อยกว่าบริเวณใหญ่ เช่น ขาทั้งสองข้าง แขนเต็ม หรือแผ่นหลัง
  2. เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้: เครื่องระดับ Medical Grade อย่าง Primelase Excellence ที่ใช้พลังงานสูง เจ็บน้อย และปลอดภัยสำหรับทุกสีผิว จะมีราคาสูงกว่า IPL หรือเลเซอร์ทั่วไป แต่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าในจำนวนครั้งที่น้อยกว่า
  3. จำนวนครั้งที่ต้องทำ: โดยทั่วไปการทำเลเซอร์ขนให้ได้ผลถาวรต้องทำ อย่างน้อย 6–8 ครั้ง ราคาต่อครั้งในคอร์สจะคุ้มกว่าการทำแบบจ่ายรายครั้ง
  4. ประสบการณ์ของคลินิกและทีมผู้เชี่ยวชาญ: คลินิกที่มีทีมแพทย์ดูแลทุกเคส ใช้อุปกรณ์ผ่าน อย. และมีระบบความปลอดภัยครบถ้วน อาจมีราคาสูงกว่า แต่แลกกับความมั่นใจที่มากขึ้น

เลเซอร์ขนอันตรายไหม?

คำถามยอดฮิตของหลายคนที่กำลังคิดจะทำเลเซอร์ขนคือ “เลเซอร์จะทำให้ผิวบางไหม?” หรือ “จะทำให้ขนแข็งขึ้นกว่าเดิมไหม?” คำตอบคือ หากทำโดยเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน และอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เลเซอร์ขนปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังในระยะยาว

ความปลอดภัยของเลเซอร์ขน

  • พลังงานของเลเซอร์ถูกออกแบบมาให้ทำลายเฉพาะรากขน (Hair Follicle) โดยไม่ทำลายผิวหนังรอบข้าง
  • เทคโนโลยีใหม่ เช่น Primelase Excellence มีระบบควบคุมความลึกและพลังงานที่แม่นยำ พร้อมหัวเลเซอร์ที่ช่วยลดความร้อนโดยตรง
  • ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกทั้งในคลินิกแพทย์ผิวหนังและคลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ในบางกรณี

แม้จะปลอดภัยโดยรวม แต่หากผิวบอบบางมาก หรือทำโดยผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจพบผลข้างเคียงเล็กน้อยได้ เช่น

  • รอยแดงหรือแสบผิวเล็กน้อย: พบได้บ่อยที่สุด แต่หายได้ในไม่กี่ชั่วโมง
  • ผิวลอก หรือแห้งเป็นขุย: โดยเฉพาะหากไม่บำรุงหรือโดนแดดแรงหลังทำ
  • ตุ่มใสเล็ก ๆ คล้ายผื่น: มักเกิดจากรูขุมขนไวต่อความร้อน ซึ่งจะหายได้เอง
  • รอยคล้ำ (Hyperpigmentation) หรือจุดขาว (Hypopigmentation): พบได้น้อยมาก และมักเกิดในคนผิวคล้ำหากไม่ป้องกันแดดหลังทำ

กลุ่มที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

  • หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติโรคผิวหนังเรื้อรัง เช่น SLE หรือโรคแพ้แสง
  • ผู้ที่เพิ่งผ่านการใช้ Retinol หรือทำหัตถการผิวหน้าแรง ๆ

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังทำเลเซอร์ขน

แม้การทำเลเซอร์ขนจะปลอดภัยสูง แต่ในบางรายอาจเกิดผลข้างเคียงได้บ้าง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น สภาพผิวเดิม พลังงานที่ใช้ การดูแลหลังทำ และความชำนาญของผู้ให้บริการ

ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป (ไม่อันตราย)

  • ผิวแดง อุ่น หรือแสบเล็กน้อย: คล้ายผิวโดนแดด ใช้เวลาหาย 1–2 ชั่วโมง
  • อาการคันเล็กน้อย: จากความร้อนสะสมใต้ผิว ซึ่งจะหายได้เองในไม่กี่วัน
  • รูขุมขนบวมเล็กน้อย: โดยเฉพาะในผู้ที่ขนหนาแน่น เป็นสัญญาณว่ารากขนถูกทำลาย

ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย (ดูแลใกล้ชิด)

  • ผิวแห้งหรือลอกเป็นขุย: โดยเฉพาะถ้าไม่ทาครีมบำรุงหรือโดนแดด
  • ผิวคล้ำลง หรือมีจุดขาว: อาจเกิดในผู้ที่ไม่ทาครีมกันแดดหรือใช้เลเซอร์ไม่เหมาะกับสีผิว
  • ตุ่มน้ำใสเล็ก ๆ หรือเป็นสะเก็ด: หากผิวไวมาก หรือพลังงานสูงเกินไป

วิธีป้องกันหรือจัดการกับผลข้างเคียง

การป้องกันที่ดีที่สุดคือ “การเตรียมผิวและดูแลหลังทำอย่างถูกต้อง”

  1. แจ้งประวัติผิวแพ้ง่าย แพ้แสง หรือใช้ยา/ครีมแรง ๆ กับแพทย์ก่อนเริ่ม เพื่อให้สามารถเลือกพลังงานเลเซอร์และหัวเครื่องที่เหมาะสม
  2. หลีกเลี่ยงแดดจัด 3–5 วัน ก่อนและหลังทำเลเซอร์ เพราะผิวที่โดนแดดจะไวต่อเลเซอร์และเกิดรอยคล้ำง่าย
  3. ทาครีมกันแดดทุกวันแม้ไม่ได้ออกแดดโดยตรง โดยเฉพาะบริเวณหน้า ขา หรือแขนที่โดนแสงจากหน้าต่าง
  4. ใช้ครีมบำรุงสูตรอ่อนโยน + เจลว่านหางจระเข้หลังทำทันที เพื่อปลอบประโลมและลดการระคายเคือง
  5. งดสครับ/กรอผิว/Retinol/Vitamin C เข้มข้นชั่วคราว จนกว่าผิวจะฟื้นตัวสมบูรณ์
  6. ถ้ามีอาการผิดปกติ ให้ปรึกษาคลินิกทันที เช่น ผิวไหม้เป็นจุด รู้สึกปวด แสบร้อนนานกว่าปกติ หรือมีตุ่มพอง

เลเซอร์ขนใช้เวลานานไหมถึงจะเห็นผล?

เลเซอร์ขนไม่เห็นผลทันที 100% แต่จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก และค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเมื่อทำต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ

ทำไมถึงไม่เห็นผลทั้งหมดในครั้งเดียว?

เพราะเส้นขนของเรามี “วงจรชีวิต” (Hair Growth Cycle) 3 ระยะ

  1. ระยะเจริญเติบโต (Anagen): ขนที่อยู่ในระยะนี้เท่านั้นที่เลเซอร์จะสามารถทำลายรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีเพียงประมาณ 20–30% ของขนทั้งหมดในแต่ละครั้ง
  2. ระยะพักตัว (Catagen): ขนเริ่มแยกตัวจากราก เลเซอร์จะทำลายได้น้อย
  3. ระยะหลุดร่วง (Telogen): ขนใกล้หลุดแล้ว รากขนไม่ตอบสนองต่อเลเซอร์

ดังนั้น จึงต้อง ทำซ้ำทุก 3–6 สัปดาห์ เพื่อให้ครอบคลุมเส้นขนทุกระยะอย่างต่อเนื่อง

เห็นผลครั้งแรกเมื่อไร?

  • หลัง 1–2 สัปดาห์แรก ขนที่โดนเลเซอร์จะเริ่ม “ผลักตัวขึ้น” แล้วหลุดออกเองอย่างเป็นธรรมชาติ (ไม่ต้องถอน)
  • จะรู้สึกว่าขนขึ้น “น้อยลง” และ “ช้าลง”
  • ผิวจะเรียบลื่นมากขึ้นโดยไม่ต้องโกน

เลเซอร์ขนควรทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน?

การทำเลเซอร์ขนเป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด โดยปกติแล้วจะต้องทำหลายครั้งเพื่อให้เลเซอร์สามารถทำลายรากขนได้อย่างเต็มที่ และครอบคลุมทุกระยะของการเจริญเติบโตของขน

จำนวนครั้งที่แนะนำ

  • 6–8 ครั้ง: เป็นจำนวนครั้งที่แนะนำโดยทั่วไปสำหรับผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนในทุกโซนของร่างกาย
  • สำหรับบางคนที่มีขนหนา หรือเส้นขนแข็ง อาจต้องทำมากกว่า 8 ครั้ง
  • สำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ขาทั้งสองข้างหรือหลัง ควรทำ 8 ครั้งขึ้นไป

ถ้าทำด้วยเลเซอร์คุณภาพสูง เช่น Primelase Excellence ที่มีพลังงานเสถียรและเหมาะกับผิวมากขึ้น อาจเห็นผลชัดในเพียง 4–6 ครั้ง

การทำเลเซอร์แต่ละครั้งสามารถลดขนได้ประมาณ 15–25%

  • ครั้งแรก: จะเห็นการลดขน 15-20%
  • หลัง 3 ครั้ง: ขนจะบางลงและขึ้นช้าลง
  • หลัง 6–8 ครั้ง: ขนจะลดลงอย่างชัดเจน บางครั้งอาจไม่ขึ้นเลยในบางพื้นที่

ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?

หลังจากที่ทำครบคอร์ส 6–8 ครั้งแล้ว ผลลัพธ์ของเลเซอร์ขนจะคงอยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความเข้มของเส้นขน อายุของขน ผิวหนัง และการดูแลหลังการทำ

ผลลัพธ์ระยะยาว

  • ขนจะบางลง และขึ้นช้าลง: ขนที่ขึ้นมาภายหลังจะมีความนุ่มและบางกว่าเดิม
  • ผิวเรียบเนียนขึ้น: เนื่องจากไม่ต้องโกนหรือแว็กซ์อย่างบ่อยครั้ง ผิวจึงไม่เกิดการเสียดสีที่อาจทำให้เกิดรอยดำหรือผิวหยาบ
  • ผลลัพธ์อาจอยู่ได้ 1–2 ปี: โดยทั่วไป ขนอาจกลับมาเติบโตอีกในบางส่วน แต่จะขึ้นช้ากว่าครั้งแรกและไม่หนาเหมือนเดิม

การดูแลหลังทำเพื่อยืดอายุผลลัพธ์

  • รักษาความชุ่มชื้น: เพื่อให้ผิวแข็งแรงและไม่เกิดการระคายเคือง
  • ทาครีมกันแดด: โดยเฉพาะในบริเวณที่ทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันการเกิดรอยดำจากแสงแดด
  • การทำซ้ำ 1–2 ครั้งต่อปี: เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้ถาวร และลดการเจริญเติบโตของขน

เลเซอร์ขนของแท้ดูยังไง?

ในปัจจุบันมีคลินิกจำนวนมากให้บริการเลเซอร์ขน แต่ไม่ใช่ทุกแห่งจะใช้เครื่องเลเซอร์แท้ที่ผ่านมาตรฐานทางการแพทย์ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อ “ความปลอดภัย” และ “ประสิทธิภาพของผลลัพธ์” การรู้วิธีดูว่าเครื่องไหนแท้ และคลินิกไหนเชื่อถือได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

  1. เครื่องเลเซอร์ต้องผ่าน อย. ไทย หรือมาตรฐานสากล
  • ควรตรวจสอบว่าเครื่องเลเซอร์ที่ใช้มี ใบรับรองจาก อย. (ประเทศไทย) หรือเป็นเครื่องที่ผ่าน FDA (สหรัฐอเมริกา), CE (ยุโรป) ซึ่งถือเป็นมาตรฐานระดับสากล
  • เช่น Primelase Excellence เป็นเครื่องระดับ Medical Grade จากสเปน ที่ผ่านทั้งอย.ไทยและมาตรฐานยุโรป
  1. เครื่องต้องเป็น “เลเซอร์แท้” ไม่ใช่ IPL
  • แม้ IPL จะมีราคาถูก แต่ไม่ใช่ “เลเซอร์จริง” และให้ผลลัพธ์ไม่ถาวร
  • เครื่องเลเซอร์แท้ เช่น Diode Laser, Alexandrite, Nd:YAG ให้พลังงานเจาะจงที่รากขนและเห็นผลชัดกว่า
  1. ผู้ให้บริการควรมีความรู้และประสบการณ์
  • คลินิกควรมีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการอบรมจากผู้ผลิตเครื่องโดยตรง
  • ควรถามชื่อรุ่นเครื่องก่อนทำ และขอดูเครื่องจริง พร้อมใบรับรองได้เลย
  1. สถานที่สะอาด ปลอดภัย และมีรีวิวจากผู้ใช้จริง
  • ห้องเลเซอร์ต้องสะอาด มีระบบฆ่าเชื้อ และเปลี่ยนหัวเลเซอร์ใหม่ทุกเคส
  • อ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงหรือดูผลลัพธ์จากเคสก่อน-หลังทำที่ตรวจสอบได้

สรุป

เลเซอร์ขนคือเทคโนโลยีกำจัดขนถาวรที่ปลอดภัย ได้ผลจริง และช่วยให้ผิวเรียบเนียนอย่างยั่งยืน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดขน ลดขนคุด ลดการระคายเคืองจากการโกนหรือแว็กซ์ และเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน

แม้จะไม่เห็นผล 100% ทันทีในครั้งแรก แต่เมื่อทำครบตามรอบอย่างเหมาะสม (6–8 ครั้ง) ขนจะค่อย ๆ ลดลง บางลง และไม่ขึ้นซ้ำในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อใช้เทคโนโลยีที่มีมาตรฐาน เช่น Primelase Excellence ซึ่งให้ผลลัพธ์เร็ว เจ็บน้อย และปลอดภัยกับทุกสีผิว

การเลือกคลินิกที่ใช้เครื่องแท้ ได้มาตรฐาน และมีทีมผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ความงาม สุขภาพผิว และความคุ้มค่าในระยะยาว

smooth clinic logo light
Get This Treatment
ติดต่อเรา