

หลายคนกำลังเผชิญกับปัญหาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง หรือผิวหน้าไม่เรียบเนียนอยู่หรือเปล่าครับ? ถึงเวลาบอกลาทุกปัญหาผิวเหล่านี้ด้วย Sylfirm X Plus เทคโนโลยีที่ ช่วยฟื้นฟูผิวจากระดับลึก ให้ผิวหน้าใสกระจ่าง รูขุมขนกระชับ หลุมสิวดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลจริงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
ใครอยากมีผิวสวยสุขภาพดีแบบธรรมชาติ ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Sylfirm X Plus อย่างละเอียด ทั้งหลักการทำงาน จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้ รวมถึงผลลัพธ์ว่าดีจริงหรือไม่ เหมาะกับใคร? ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล? รวมทุกคำตอบไว้ให้ครบในที่เดียว

Sylfirm X Plus คือเทคโนโลยี RF Microneedling รุ่นล่าสุดจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การรักษาปัญหาผิวเรื้อรังที่ซับซ้อน เช่น ฝ้า กระลึก เส้นเลือดฝอย รอยแดง ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง และผิวขาดความกระชับ ในระดับเซลล์ผิว โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน
เทคโนโลยีนี้ถือเป็น “Medical-Grade Aesthetic Device” ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจาก Sylfirm X รุ่นแรก เพิ่มความแม่นยำในการรักษา พร้อมรองรับการใช้งานแบบ Multi-Treatment ทั้งในคลินิกความงามและแพทย์ผิวหนัง โดยได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลก เช่น US FDA, KFDA และมีงานวิจัยทางคลินิกรองรับมากกว่า 25 ฉบับทั่วโลก
Sylfirm X Plus กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่คลินิกความงามระดับพรีเมียมทั่วโลกเลือกใช้ ด้วยเหตุผลที่ไม่ใช่แค่ “ให้ผลลัพธ์ที่ดี” เท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ทั้งฝั่งผู้ให้บริการและความคาดหวังของลูกค้าได้แบบรอบด้าน ซึ่งประกอบไปด้วยเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้
Sylfirm X Plus ใช้เทคโนโลยีล่าสุดของวงการความงามระดับการแพทย์ ซึ่งรวมคลื่นพลังงานและการกระตุ้นผิวลึกในระดับเซลล์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อผลลัพธ์ที่ครอบคลุมทั้ง “ผิวสวยใส” และ “สุขภาพผิวแข็งแรงจากภายใน” โดยไม่ทำร้ายผิวชั้นบน หัวใจของเครื่องนี้อยู่ที่ 3 เทคโนโลยีหลัก ซึ่งทำงานประสานกันแบบเรียลไทม์
จุดเด่นของ Sylfirm X Plus คือการใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) แบบ สองคลื่นพร้อมกัน ได้แก่
Dual Wave RF นี้ช่วยให้แพทย์สามารถ “ปรับแต่งค่าพลังงานให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละคน” ได้แบบ real-time ทำให้ได้ผลลัพธ์แบบ Personalized จริง ๆ
อีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญคือการใช้หัวเข็มทอง เคลือบทอง (Gold-Plated) แบบ ไม่มีฉนวน (Non-Insulated) ซึ่งแตกต่างจากเข็มทั่วไปในท้องตลาด
อีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญคือการใช้หัวเข็มทอง เคลือบทอง (Gold-Plated) แบบ ไม่มีฉนวน (Non-Insulated) ซึ่งแตกต่างจากเข็มทั่วไปในท้องตลาด
Sylfirm X Plus ใช้เทคโนโลยีการยิงพลังงานลงลึกในระดับ 300 ไมครอน (μm) ซึ่งเป็นระดับที่งานวิจัยทางการแพทย์ระบุว่าเป็น “จุดเรื้อรังของปัญหาผิว” เช่น
การยิงพลังงานแบบเฉพาะจุด (Focal RF Delivery) นี้ ช่วยรักษาเฉพาะจุดที่มีปัญหา โดยไม่กระทบต่อผิวดีรอบข้าง
แม้ว่า Sylfirm X Plus จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มของ “RF Microneedling” แต่ความสามารถและผลลัพธ์ที่ได้ แตกต่างจากเครื่อง RF ทั่วไปอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของเทคโนโลยี กลไกการทำงาน และประสิทธิภาพในการรักษาปัญหาผิวลึก
หากคุณเคยรู้จักหรือเคยทำ RF Microneedling รุ่นอื่นมาก่อน เช่น Morpheus8, Secret RF, Infini RF ฯลฯ นี่คือข้อเปรียบเทียบที่ชัดเจนว่า ทำไม Sylfirm X Plus ถึงเหนือกว่าในหลายด้าน
| เปรียบเทียบ | Sylfirm X | Sylfirm X Plus |
|---|---|---|
| ปรับพลังงาน | ระดับมาตรฐาน | ปรับละเอียดสูง |
| ความเสถียรของพลังงาน | ปานกลาง | สูงมาก |
| โปรแกรมเสริม | จำกัด | รองรับโปรโตคอลขั้นสูง |
| เวลาในการทำ | นานกว่า | เร็วขึ้น |
| เคสยาก/เรื้อรัง | พอใช้ได้ | จัดการได้ดีกว่า |

จริงๆ แล้วเวลาพูดถึง Sylfirm X Plus หลายคนอาจนึกถึงแค่เรื่อง “ยกกระชับผิว” หรือ “ลดริ้วรอย” เป็นหลัก แต่ในทางการแพทย์ ความสามารถของเครื่องนี้ไปไกลกว่านั้นมาก เพราะเทคโนโลยี RF Microneedling แบบ Dual Wave ที่ใช้ใน Sylfirm X Plus ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ปัญหาผิวที่ “ลึก-เรื้อรัง-ซับซ้อน” โดยเฉพาะ ซึ่งหัตถการหรือเครื่องมือทั่วไปมักเข้าไม่ถึงครับ
จากประสบการณ์ที่หมอใช้เครื่องนี้กับคนไข้มา จะเห็นผลได้ชัดใน 5 กลุ่มปัญหาหลัก ดังนี้ครับ
หนึ่งในความสามารถเฉพาะตัวของ Sylfirm X Plus คือการจัดการ “เม็ดสีผิดปกติ” โดยเฉพาะฝ้าแบบ Melasma ที่ลึกและดื้อต่อเลเซอร์ทั่วไป
ผลลัพธ์ที่ได้คือ ฝ้าดูจางลง สีผิวสม่ำเสมอขึ้นโดยไม่ทำให้ผิวบางหรือเสี่ยง PIH แบบเลเซอร์แรงๆ
เทคโนโลยี Continuous RF ที่ส่งพลังงานลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) และ SMAS ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ต่างจากเลเซอร์ที่เน้นผลลัพธ์เฉพาะจุด Sylfirm X Plus ให้ผล “ทั่วผิว” แบบที่เรียกว่าผิวฟู Glow Up ครับ
สำหรับเคสที่มีเส้นเลือดฝอย หรือรอยแดงหลังสิวที่ไม่หายสักที Sylfirm X Plus เป็นเครื่องมือหนึ่งเดียวในกลุ่ม RF Microneedling ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการปัญหานี้โดยเฉพาะ
จุดนี้เครื่องเลเซอร์บางตัวอาจทำให้แย่ลงถ้าใช้ผิดวิธี แต่ Sylfirm X Plus กลับให้ผลในเชิงสมานผิวและลดความระคายเคืองได้ดี
ผิวที่ผ่านแดด ฝุ่น ควัน หรือ Blue Light จากหน้าจอจะมีอาการอ่อนล้า เซลล์ผิวทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ผิวหมองและขาดความยืดหยุ่น
หมอเรียกการรักษานี้ว่าเป็นการ “ฟื้นฟูผิวเชิงลึก” ไม่ใช่แค่การผลัดเซลล์ผิวแบบทั่วไป
แน่นอนครับ โดยเฉพาะเคสที่มี “สีผิวไม่เท่ากัน” จากการอักเสบ, รอยสิวเก่า, ฝ้ากระบางจุด Sylfirm X Plus ช่วยให้สีผิวดูกลมกลืนขึ้นได้จริง

จริงๆ แล้ว Sylfirm X Plus เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาให้ใช้ได้กับทุกสภาพผิวและทุกช่วงวัยก็ว่าได้ครับ เพราะความสามารถในการ “ปรับแต่งค่าการรักษาได้ละเอียดมาก” ทำให้แพทย์สามารถออกแบบการรักษาให้เหมาะกับแต่ละคนแบบเฉพาะบุคคลได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ถ้าให้จำแนกชัดเจนตามกลุ่มปัญหาและลักษณะผิว จะสามารถแบ่งผู้ที่เหมาะสมกับการทำ Sylfirm X Plus ได้ดังนี้ครับ
แม้ Sylfirm X Plus จะปลอดภัยสูง แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่ควรเลี่ยง หรือปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อน เช่น
สามารถทำได้ครับ แต่ควรเว้นระยะอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะเลเซอร์ประเภทที่ทำให้ผิวลอก เช่น CO2, Erbium หรือ TCA เพราะผิวยังอยู่ในช่วงการฟื้นฟู อาจไวต่อพลังงาน RF มากกว่าปกติ
โดยทั่วไป ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ที่ทำ เช่น ถ้าทำแค่บริเวณหน้าแก้มหรือใต้ตา อาจใช้เวลาเพียง 30 นาที แต่ถ้าทำทั้งหน้า + คอ ก็อาจใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย
ความรู้สึกขณะทำจะคล้าย “เข็มเล็กๆ จิ้มลงผิว พร้อมกับความอุ่นจากคลื่น RF” ซึ่งในบางบริเวณที่ผิวบางหรือไว อาจรู้สึกเจ็บจี๊ดเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วอยู่ในระดับที่คนส่วนใหญ่ “ทนได้” ครับ
หมอจะค่อยๆ ปรับพลังงานให้เหมาะกับแต่ละคน หากรู้สึกไม่สบายสามารถแจ้งได้ทันที เราสามารถลดระดับหรือพักระหว่างทำได้เสมอ
ต้องใช้ครับ เพื่อให้คนไข้รู้สึกสบายที่สุด เราจะทายาชาก่อนทำประมาณ 30-45 นาที ซึ่งช่วยลดความรู้สึกระหว่างยิงได้อย่างมาก โดยเฉพาะในเคสที่ทำบริเวณกว้างหรือคนที่ผิวไวต่อความรู้สึก
แม้ Sylfirm X Plus จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้นและไม่ทำให้ผิวลอกเหมือนเลเซอร์บางประเภท แต่การดูแลผิวหลังทำก็มีความสำคัญมากเช่นกันครับ เพราะจะช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็ว ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และยืดอายุของผลลัพธ์ให้นานขึ้น
จากประสบการณ์ของหมอ คนไข้ที่ดูแลตัวเองดีหลังทำ มักจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนและผิวแข็งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ
โดยทั่วไป ไม่ต้องพักฟื้น ครับ อาจมีอาการแดงเล็กน้อยทันทีหลังทำในบางจุด โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบาง เช่น ใต้ตา หรือร่องแก้ม ซึ่งจะหายภายใน 1-2 ชั่วโมง หรือสูงสุดไม่เกิน 24 ชั่วโมง
บางรายอาจมีรอยเข็มเล็กๆ หรือรู้สึกผิวแห้งระคายเล็กน้อย ซึ่งสามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือผลข้างเคียง หมอแนะนำให้
แนะนำให้ เว้นการแต่งหน้า 24 ชั่วโมงแรก หลังทำ เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นตัวโดยไม่มีสิ่งปกคลุมหรืออุดตันรูขุมขน
หลังจากนั้นสามารถกลับมาแต่งหน้าได้ตามปกติครับ โดยควรใช้เครื่องสำอางที่อ่อนโยนและไม่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์สูงในช่วง 3-5 วันแรก
หลังทำ Sylfirm X Plus หมอแนะนำให้เน้นสกินแคร์ที่ช่วยปลอบประโลมและเสริมเกราะผิว
งดใช้สกินแคร์ที่มี AHA, BHA, Retinol หรือ Vitamin C ความเข้มข้นสูง ประมาณ 5-7 วัน

โดยทั่วไป Sylfirm X Plus ถือว่า เจ็บน้อยกว่าการทำ Microneedling แบบเดิม (เช่น Dermapen หรือ RF ที่ไม่มีระบบควบคุมพลังงาน) เหตุผลที่เจ็บน้อยกว่า
ได้ครับ และได้ผลดีมากด้วย เพราะ Sylfirm X Plus ถูกออกแบบมาให้รองรับการรักษาแบบ Multimodality หรือการ “ทำงานร่วมกับหัตถการอื่น” เพื่อเสริมผลลัพธ์ให้ชัดเจนและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น จากประสบการณ์ของหมอ การวางแผนแบบโปรแกรมร่วม มักจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับผู้ที่มีปัญหาผิวหลายมิติ เช่น ฝ้าลึก + ผิวบาง + ริ้วรอย หรือคนที่ต้องการดูแลผิวแบบองค์รวมครับ
สามารถทำร่วมกันได้ โดยวางแผนเว้นระยะประมาณ 3-4 สัปดาห์ ช่วยให้ทั้ง “โครงสร้างผิว” และ “คุณภาพผิว” ดีขึ้นพร้อมกัน
ได้ครับ แนะนำเว้นประมาณ 5-7 วันหลังทำ เพื่อให้ผิวฟื้นตัวก่อน แล้วจึงฉีดเมโสวิตามินบำรุงผิว หรือเมโสลดฝ้าเพิ่มเติมได้ การทำแบบนี้จะช่วยให้วิตามินซึมได้ดีขึ้นเพราะผิวเปิดรับการดูดซึมมากขึ้นจากการกระตุ้นของ RF
ดีมากครับ การทำ PRP หรือสเต็มเซลล์หลัง Sylfirm X Plus จะช่วยให้
แนะนำทำ PRP ภายใน 48 ชั่วโมงหลังการทำ Sylfirm X Plus จะให้ผลดีที่สุด
สำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวแบบต่อเนื่องและครบทุกมิติ หมอแนะนำโปรแกรม 3 ขั้นตอนแบบนี้ครับ:
ทำต่อเนื่องทุก 4-6 สัปดาห์ จะเห็นผลลัพธ์ทั้ง “หน้าใส-ผิวแน่น-ริ้วรอยลด” แบบยั่งยืนครับ
เวลาคนไข้ถามหมอว่า “Sylfirm X Plus ต่างจาก HIFU, Thermage หรือ Ultraformer III ยังไง?” หมอมักจะยกคำว่า “ความแม่นยำ และ พลังงาน” มาใช้เปรียบเทียบง่ายๆ เพราะแต่ละเทคโนโลยีมีจุดแข็งเฉพาะตัว และเหมาะกับเคสที่ต่างกันครับ
| ประเด็น | Sylfirm X Plus | HIFU (เช่น Ultraformer III, Doublo, Ultherapy Prmie) |
|---|---|---|
| พลังงาน | คลื่นวิทยุ RF (Pulsed + Continuous) | คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง |
| ชั้นผิวที่รักษา | ชั้นหนังแท้ตื้นถึงลึก (0.3 - 4.0 mm) | ลึกถึง SMAS (4.5 mm) |
| จุดเด่น | รักษาปัญหาเฉพาะจุด เช่น ฝ้า เส้นเลือดฝอย รอยแดง | ยกกระชับชั้นกล้ามเนื้อใบหน้า |
| ความรู้สึกขณะทำ | เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว | อาจเจ็บจี๊ดลึกๆ ชั่วขณะ |
| เหมาะกับ | ปัญหาผิวเรื้อรัง ผิวแพ้ง่าย รอยแดง รูขุมขน | ผิวหย่อนคล้อย ต้องการยกกรอบหน้า |
หมอแนะนำ: ถ้าปัญหาคือ “ผิวไม่แข็งแรง + ฝ้า + รูขุมขน” ให้เริ่มจาก Sylfirm X Plus ก่อน แล้วค่อยเสริม HIFU หากต้องการยกกระชับเพิ่ม
| ประเด็น | Sylfirm X Plus | Thermage |
|---|---|---|
| พลังงาน | RF แบบเจาะจง (Dual Wave + เข็ม) | RF แบบ Monopolar (ไม่ใช้เข็ม) |
| การลงพลังงาน | เจาะจงจุดด้วยเข็ม → ลงลึกเฉพาะที่ต้องการ | กระจายทั่วบริเวณอย่างสม่ำเสมอ |
| จุดเด่น | รักษารอยแดง รอยดำ ฝ้า + ฟื้นฟูรูขุมขน | ยกกระชับแนวแก้ม กรอบหน้า ผิวตึงขึ้น |
| ความรู้สึก | เจ็บเล็กน้อยเป็นจุด | รู้สึกร้อนลึกทั่วหน้า |
| เหมาะกับ | ปัญหาผิวหลายจุด ซับซ้อน | คนที่ต้องการปรับรูปหน้าแต่ไม่อยากผ่าตัด |
หมอแนะนำ: สำหรับคนที่เริ่มมีอายุ ผิวไม่ยก และมีปัญหาฝ้าร่วมด้วย → การทำ Thermage + Sylfirm X Plus จะช่วยให้ได้ผลทั้ง “โครงสร้าง” และ “คุณภาพผิว” ครับ
| ประเด็น | Sylfirm X Plus | Ultraformer III (HIFU) |
|---|---|---|
| พลังงาน | RF Microneedling แบบ Dual Wave | HIFU |
| จุดเด่น | ปรับผิวให้เนียน รูขุมขนเล็ก ผิวใสขึ้น | ยกคิ้ว ยกแก้ม ยกคอ |
| ความเจ็บ | เจ็บน้อยกว่า Ultraformer III | เจ็บในระดับปานกลาง-มาก (เฉพาะจุด) |
| เหมาะกับ | ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ปัญหาผิวเรื้อรัง | ผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด |
หมอแนะนำ: ถ้าอายุยังไม่มาก และผิวเริ่มมีริ้วรอยเล็กๆ + ต้องการดู “ผิวฟูสุขภาพดี” → เริ่มที่ Sylfirm X Plus จะตอบโจทย์มากกว่าครับ
| บริเวณที่ทำ | ราคาต่อครั้ง (โดยประมาณ) |
|---|---|
| ทั่วใบหน้าและลำคอ | 16,990 |
ราคาขึ้นกับจำนวนช็อตที่ใช้ และโปรแกรมที่ออกแบบเฉพาะบุคคล เช่น ใช้ร่วมกับ PRP, Meso, หรือหัตถการเสริมอื่นๆ
ได้แน่นอนครับ Sylfirm X Plus เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ชายที่มีปัญหาฝ้าแดด รูขุมขนกว้าง รอยแดงจากการโกนหนวด หรือผิวหมองคล้ำจากมลภาวะ ก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
Sylfirm X Plus คือเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีไมโครนีดเดิล RF (Microneedle RF) ช่วยรักษาปัญหาผิวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นรอยแดง ฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง ไปจนถึงการยกกระชับผิว โดยใช้คลื่นวิทยุผสานเข็มขนาดเล็กมากกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ปลอดภัย เห็นผลเร็ว และไม่ต้องพักฟื้นนานหลังการรักษา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน