ฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ cc ราคาเท่าไหร่ อยู่ได้นานแค่ไหน

ร่องแก้มลึกทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย โทรม และแก่กว่าวัยโดยไม่รู้ตัว แม้จะนอนพักผ่อนเต็มที่ก็ยังดูไม่สดใส หลายคนจึงหันมาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อคืนความละมุนให้ใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ร่องแก้มคือการเติมสารไฮยาลูโรนิกแอซิด (HA) เข้าไปบริเวณร่องข้างจมูกถึงมุมปาก เพื่อเติมเต็มร่องลึก ลดเงา และปรับรูปหน้าให้ดูนุ่มนวลขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด บทความนี้จะตอบทุกคำถามที่คนสงสัยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ร่องแก้ม ทั้งจำนวน cc, ราคา, ความปลอดภัย, ยี่ห้อไหนดี และวิธีเลือกให้เหมาะกับใบหน้าแต่ละคน

สารบัญ hide

ฟิลเลอร์ร่องแก้มคืออะไร?

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือการฉีดสารเติมเต็มชนิดอ่อน (Soft Tissue Filler) บริเวณร่องลึกข้างปีกจมูกลงมามุมปาก ซึ่งเรียกว่าร่องแก้ม หรือ Nasolabial folds โดยทั่วไปมักใช้สารประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่มีความปลอดภัยสูงและสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ

จุดประสงค์ของการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณนี้คือการเติมเต็มร่องลึก ลดเงาที่ทำให้หน้าดูเหนื่อย ดูโทรมหรือดูมีอายุ เพื่อคืนความสดใสให้กับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด การฉีดจะอาศัยเทคนิคที่แม่นยำ โดยแพทย์จะประเมินชั้นผิว ความลึกของร่อง และเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับโครงสร้างหน้าของแต่ละบุคคล

ฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?

ปัญหาร่องแก้มลึกเป็นหนึ่งในสัญญาณของความร่วงโรยที่สังเกตได้ง่าย และส่งผลต่อภาพรวมของใบหน้าอย่างชัดเจน บางคนอาจไม่ได้มีร่องที่ลึกมาก แต่มีเงาหรือโครงหน้าที่ทำให้ดูเหนื่อย ดูดุ หรือดูแก่กว่าวัย ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน

ฟิลเลอร์ร่องแก้มสามารถช่วยแก้ไขได้หลายจุด เช่น

  • ลดความลึกของร่องที่ชัดเจน
  • ลบเงาใต้ร่องที่ทำให้หน้าดูโทรมหรือเครียด
  • ปรับโครงหน้าด้านข้างให้ดูละมุนขึ้น
  • เพิ่มความสมดุลให้ใบหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม

การเติมร่องแก้มจึงไม่ใช่เพียงเรื่องความสวยงาม แต่เป็นการปรับบุคลิกให้ดูอ่อนโยน เป็นมิตร และดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ใช้ฟิลเลอร์ร่องแก้มกี่ cc ถึงเห็นผล?

ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับร่องแก้มมักขึ้นอยู่กับความลึกของร่อง สภาพผิว อายุ และโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้วจะใช้ประมาณ 1–2 cc ต่อข้าง หรือรวมทั้งหมด 2–4 cc จึงจะเห็นผลชัดเจนและเป็นธรรมชาติ

ในบางรายที่ร่องไม่ลึกมาก อาจเริ่มต้นที่ 1–2 cc รวมทั้งสองข้างก็เพียงพอ ส่วนเคสที่มีโครงหน้าผอม แก้มตอบ หรืออายุ 40 ปีขึ้นไป อาจต้องใช้มากกว่าเพื่อผลลัพธ์ที่สมดุลและดูละมุนยิ่งขึ้น

การประเมินปริมาณที่เหมาะสมควรให้แพทย์เป็นผู้วิเคราะห์เป็นรายบุคคล เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 cc พอไหม?

หลายคนสงสัยว่า “ฉีดแค่ 1 cc จะเห็นผลหรือไม่?” คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับโครงสร้างใบหน้าและความลึกของร่องแต่ละบุคคล หากเป็นเคสที่ร่องแก้มตื้น หรือเพิ่งเริ่มมีร่อง สามารถใช้เพียง 1 cc (0.5 cc ต่อข้าง) เพื่อปรับผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้นได้เล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น หรือเป็นร่องที่มีความลึกปานกลางถึงมาก แพทย์มักจะแนะนำให้ใช้ 2 cc ขึ้นไป เพื่อความสมดุลของทั้งสองข้าง และให้ผลลัพธ์ที่กลมกลืนกับใบหน้าโดยรวม

การใช้เพียง 1 cc อาจเหมาะกับผู้ที่ต้องการทดลองก่อน หรือต้องการปรับเล็กน้อย แต่หากหวังผลชัดเจนควรให้แพทย์ประเมินแบบเคสต่อเคส

ราคาฟิลเลอร์ร่องแก้มโดยประมาณเท่าไหร่?

ราคาฟิลเลอร์ร่องแก้มขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ยี่ห้อของฟิลเลอร์, ปริมาณที่ใช้, เทคนิคของแพทย์, และ มาตรฐานของคลินิก โดยทั่วไปจะคิดเป็นราคาต่อ 1 cc ซึ่งเป็นหน่วยที่ใช้ประเมินได้ชัดเจนที่สุด

ราคาโดยประมาณ (ไม่ใช่ราคาที่คลินิก)

ยี่ห้อฟิลเลอร์ ราคา/cc (โดยเฉลี่ย) คุณสมบัติ
Juvederm 13,000 – 18,000 บาท เนื้อนุ่ม อยู่ได้นาน 12 เดือน
Restylane 11,000 – 15,000 บาท ปั้นรูปทรงดี ควบคุมชั้นผิวได้แม่นยำ
Belotero 10,000 – 14,000 บาท กระจายตัวดี ไม่เป็นก้อนง่าย

หมายเหตุ: ราคาขึ้นกับรุ่นย่อย เช่น Voluma, Lyft, Volume, volite ฯลฯ และโปรโมชันแต่ละคลินิก เช่น ฉีด 2 cc ขึ้นไปราคาเฉลี่ยต่อ cc อาจถูกลง

การเลือกคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ เปิดกล่องต่อหน้า และมีแพทย์ประเมินใบหน้าก่อนฉีด จะช่วยให้การตัดสินใจคุ้มค่าทั้งผลลัพธ์และความปลอดภัย

ฟิลเลอร์ร่องแก้มอยู่ได้นานแค่ไหน?

อายุของฟิลเลอร์ร่องแก้มโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 9–18 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่

  • ชนิดของฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์ที่มีความเข้มข้นสูงและโมเลกุลใหญ่ (เช่น Juvederm Voluma) มักอยู่ได้นานกว่า
  • ตำแหน่งที่ฉีด: ร่องแก้มเป็นบริเวณที่เคลื่อนไหวบ่อย การขยับบ่อยอาจเร่งการย่อยสลาย
  • พฤติกรรมส่วนตัว: การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือออกกำลังกายหนักบ่อย อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
  • เทคนิคของแพทย์: การวางฟิลเลอร์ในชั้นที่เหมาะสม ช่วยยืดอายุการอยู่ของฟิลเลอร์ได้

แม้ HA filler จะสลายไปได้เองตามธรรมชาติ แต่บางคนก็สามารถคงผลลัพธ์ไว้ได้ยาวนานขึ้น หากมีการดูแลอย่างเหมาะสม หรือกลับมาเติมซ้ำก่อนที่ฟิลเลอร์จะสลายหมด

ต้องเติมซ้ำบ่อยไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มไม่จำเป็นต้องเติมซ้ำบ่อย หากเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมและได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยทั่วไปแล้วจะมีการแนะนำให้ เติมซ้ำทุก 12–18 เดือน หรือเร็วกว่านั้นเล็กน้อยในบางเคส เพื่อรักษารูปหน้าและผลลัพธ์ให้สม่ำเสมอ

แพทย์บางท่านอาจแนะนำให้กลับมาติดตามผลประมาณ 1 เดือนหลังฉีด เพื่อตรวจดูความคงตัวของฟิลเลอร์ และพิจารณา “top-up” ถ้าจำเป็น เช่น กรณีเนื้อฟิลเลอร์กระจายตัวไม่เท่ากัน หรือร่องยังไม่เรียบสนิท

การเติมซ้ำไม่ควรรอจนฟิลเลอร์สลายหมด เพราะจะทำให้ผลลัพธ์ขาดช่วง ควรให้แพทย์ประเมินเป็นระยะและเติมในปริมาณพอเหมาะจะได้ผลลัพธ์ที่ต่อเนื่องและดูเป็นธรรมชาติที่สุด

ฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม?

ฟิลเลอร์ร่องแก้มถือเป็นหัตถการที่ปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ฟิลเลอร์แท้ อย่างไรก็ตาม บริเวณร่องแก้มเป็นจุดที่มีเส้นเลือดสำคัญพาดผ่าน เช่น angular artery และ facial vein หากฉีดลึกหรือผิดตำแหน่ง อาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น

  • การอุดตันของเส้นเลือด (Vascular Occlusion)
  • ฟิลเลอร์ไหลผิดตำแหน่งหรือเป็นก้อน
  • รอยแดง บวม ช้ำมากผิดปกติ

การลดความเสี่ยงสามารถทำได้โดย:

  • เลือกคลินิกที่มีแพทย์ประจำเต็มเวลา
  • เปิดกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า (พร้อมกล่อง อย. ไทย)
  • ใช้เข็มทู่ (Cannula) ในจุดที่มีเส้นเลือดพาดผ่าน
  • แพทย์วิเคราะห์ชั้นผิวและวางแผนการฉีดอย่างเหมาะสม

หากรู้สึกปวดมากหรือมีสีผิวผิดปกติหลังฉีด ควรกลับไปพบแพทย์ทันทีเพื่อประเมินและให้การดูแลอย่างทันท่วงที

ฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นก้อนไหม?

หลายคนกังวลว่าฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วจะเป็นก้อน ซึ่งความจริงแล้ว ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid ที่ได้มาตรฐานจะไม่จับตัวเป็นก้อนง่าย หากฉีดอย่างถูกเทคนิคและวางในชั้นผิวที่เหมาะสม

สาเหตุที่อาจทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน ได้แก่:

  • ฉีดในชั้นผิวตื้นเกินไป หรือไม่สม่ำเสมอ
  • ใช้ปริมาณมากเกินจำเป็น
  • เทคนิคการวางฟิลเลอร์ไม่แม่นยำ หรือฉีดเร็วเกินไป
  • มีพฤติกรรมกด นวด หรือจับบริเวณที่ฉีดแรงเกินช่วง 48 ชม. แรก

การป้องกัน:

  • แพทย์จะเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มที่กระจายตัวดีในบริเวณร่องแก้ม
  • ใช้เทคนิค “layering” หรือ “cross-hatching” เพื่อจัดวางฟิลเลอร์ให้เรียบเสมอกัน
  • หากพบว่ามีการจับตัวเป็นก้อนเล็กน้อยในช่วงแรก อาจมีการนวดเกลี่ยโดยแพทย์

ฟิลเลอร์ที่เป็นก้อนสามารถละลายออกได้โดยใช้เอนไซม์ Hyaluronidase จึงไม่ต้องกังวลว่าจะแก้ไม่ได้หากพบปัญหา

ฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้ยี่ห้อไหนดี?

ฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นบริเวณที่ต้องการเนื้อฟิลเลอร์ที่ ให้ความเนียนกลืนผิว แต่ยังคงพยุงรูปหน้าได้ดี ดังนั้นการเลือกยี่ห้อจึงมีความสำคัญ โดยแต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป

เปรียบเทียบฟิลเลอร์ร่องแก้มยอดนิยม

ยี่ห้อฟิลเลอร์ จุดเด่น ความอยู่ทน
Juvederm เนื้อเนียน ยืดหยุ่นสูง ฟูเร็ว 12–18 เดือน
Restylane ปั้นทรงชัด ควบคุมชั้นผิวแม่น 9–12 เดือน
Belotero กระจายตัวดี ลดโอกาสเป็นก้อน 6–12 เดือน

การเลือกฟิลเลอร์ขึ้นกับ

  • โครงสร้างผิวและความลึกของร่อง
  • ความต้องการของคนไข้ (ดูละมุน/ยกพยุงมาก)
  • ประสบการณ์ของแพทย์กับแต่ละยี่ห้อ

ทุกยี่ห้อข้างต้นผ่านการรับรองจาก อย. ไทย และมีข้อมูลรองรับด้านความปลอดภัย จึงควรเน้นเลือกที่ “ของแท้” และ “เหมาะกับใบหน้าเราจริงๆ” เท่านั้น

เปรียบเทียบฟิลเลอร์ร่องแก้มกับการร้อยไหม/เลเซอร์

หลายคนลังเลระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกับหัตถการอื่น เช่น ร้อยไหม หรือเลเซอร์ยกกระชับ เพื่อแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตา ร่องแก้ม และความหย่อนคล้อยบริเวณกลางหน้า

การเลือกวิธีที่เหมาะสมควรพิจารณาจาก “ต้นตอของปัญหา” ว่าเกิดจากอะไร เช่น ไขมันฝ่อตัว ผิวหย่อน หรือมวลกระดูกลดลง ซึ่งแต่ละเทคโนโลยีมีจุดเด่นต่างกัน:

วิธีการ กลไก เหมาะกับใคร เห็นผลเร็วไหม ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
ฟิลเลอร์ เติมเต็มร่องโดยตรง ร่องลึกเด่นชัด ทันที 9–18 เดือน
ร้อยไหม กระตุ้นคอลลาเจน+ยกผิว ผิวหย่อน มีไขมัน 2–4 สัปดาห์ 6–12 เดือน
เลเซอร์ (เช่น Ulthera Prime) กระตุ้นยกกระชับจากผิวลึก ผิวอ่อนแรง ยังไม่มีร่องลึก 2–3 เดือน 12 เดือน+

สรุป: หากมี “ร่องแก้มลึกที่ชัด” ฟิลเลอร์จะเป็นวิธีที่ตรงจุดและเห็นผลชัดที่สุด ส่วนการร้อยไหมหรือเลเซอร์เหมาะกับการยกผิวและเสริมผลร่วมกัน แต่ไม่ได้เติมเต็มร่องโดยตรง

ฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับใคร และคุ้มไหม? (ภาษาไทย)

ฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มชัด ทำให้หน้าดูเหนื่อยหรือแก่กว่าวัย ไม่ว่าจะเกิดจากกรรมพันธุ์ อายุที่เพิ่มขึ้น หรือการลดน้ำหนักจนทำให้ไขมันบริเวณกลางหน้าแฟบลง

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีร่องแก้มลึก แม้อายุยังไม่มาก
  • ผู้ที่ต้องการปรับลุคให้ดูละมุนขึ้น ดูเป็นมิตร
  • ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น
  • ผู้ที่เคยร้อยไหม/ทำเลเซอร์แล้วยังมีร่องลึกอยู่

คุ้มไหม?

  • ฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์รวดเร็ว และปรับโครงสร้างใบหน้าได้ชัดเจน
  • สามารถอยู่ได้นาน 9–18 เดือน หากดูแลดี
  • หากฉีดโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ดูไม่โป๊ะ

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ทั้งในแง่ความมั่นใจ บุคลิกภาพ และผลลัพธ์ระยะยาว

คำถามที่พบบ่อย: ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

1. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 cc พอไหม?

สำหรับผู้ที่มีร่องไม่ลึกมาก หรืออายุยังน้อย 1 cc อาจพอเห็นผลเบื้องต้น แต่ส่วนใหญ่จะแนะนำ 2 cc ขึ้นไปเพื่อผลลัพธ์ที่สมดุล

2. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อยู่ได้นานไหม?

โดยทั่วไปอยู่ได้ 9–18 เดือน ขึ้นกับชนิดฟิลเลอร์ เทคนิคแพทย์ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต

3. ฟิลเลอร์ร่องแก้มเจ็บไหม?

เจ็บเล็กน้อยขณะฉีด เพราะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ โดยส่วนใหญ่ผู้รับบริการจะรู้สึกแค่ตึงๆ ชั่วคราว

4. ฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นก้อนไหม?

หากฉีดโดยแพทย์ที่ชำนาญและใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ความเสี่ยงที่จะเป็นก้อนต่ำมาก

5. ฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้ยี่ห้อไหนดี?

ยอดนิยม ได้แก่ Juvederm, Restylane, Belotero โดยควรเลือกตามชั้นผิวและคำแนะนำของแพทย์

6. ฟิลเลอร์ร่องแก้มกี่วันเข้าที่?

ส่วนใหญ่เห็นผลทันที และจะเข้าที่เต็มที่ภายใน 3–7 วันหลังฉีด

7. ต้องเติมซ้ำบ่อยแค่ไหน?

ส่วนมากจะเติมทุก 12–18 เดือน แต่ควรติดตามผลกับแพทย์เป็นระยะ

8. ฟิลเลอร์ร่องแก้มทำให้หน้าเปลี่ยนไหม?

สามารถปรับลุคให้ดูละมุน สดใสขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทำให้หน้าดูผิดแปลก

บทสรุป

ฟิลเลอร์ร่องแก้มไม่ใช่แค่การเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับลุคให้ดูอ่อนโยน สดใส และเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพักฟื้น หากเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะกับใบหน้าและฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานและคุ้มค่าการลงทุน

อย่าลืมเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ใช้ฟิลเลอร์แท้ เปิดกล่องให้ดูต่อหน้า และมีการประเมินโดยแพทย์อย่างละเอียดก่อนฉีด เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่คุณมั่นใจได้

smooth clinic logo light
Get This Treatment
ติดต่อเรา